รัฐแคลิฟอร์เนียเล็งฟ้อง "ทรัมป์" เหตุลงนามประกาศฉุกเฉิน คาดรัฐอื่นร่วมด้วย

ข่าวการเมือง Monday February 18, 2019 08:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายซาเวียร์ เบเซอร์รา อัยการสูงสุดประจำรัฐแคลิฟอร์เนียในสังกัดพรรคเดโมแครต ให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าวเอบีซีเมื่อวานนี้ว่า รัฐแคลิฟอร์เนียเตรียมคัดค้านการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ หลังจากที่ได้ใช้อำนาจประธานาธิบดีลงนามในประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อออกกฎหมายอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนที่ติดกับเม็กซิโก โดยไม่ต้องผ่านการรับรองจากสภาคองเกรส

นายเบเซอร์รา เปิดเผยว่า รัฐแคลิฟอร์เนียจะยื่นคำคัดค้านในเร็วๆ นี้แน่นอน ขณะที่รัฐอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคเดโมแครตนั้น คาดว่าจะร่วมคัดค้านด้วยเช่นกัน

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังไม่นานมานี้ ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อออกกฎหมายอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนที่ติดกับเม็กซิโก โดยไม่ต้องผ่านการรับรองจากสภาคองเกรส และกล่าวว่า สหรัฐเผชิญกับการบุกรุกของนักค้ายาเสพติด และนักค้ามนุษย์ รวมทั้งคลื่นผู้อพยพจำนวนมากที่ต้องการหลบหนีเข้ามาในสหรัฐ ทำให้สหรัฐมีความจำเป็นต้องสร้างกำแพงเพื่อสกัดกั้นคนเหล่านี้

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ยอมรับว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวจะทำให้เขาถูกฟ้อง ซึ่งเขาก็จะต่อสู้ถึงศาลฎีกา และคาดว่าจะได้รับชัยชนะในที่สุด

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ปธน.ทรัมป์ต้องการงบประมาณสร้างกำแพงจำนวน 8 พันล้านดอลลาร์ แต่ในร่างกฎหมายงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสนั้น มีการเจียดงบประมาณสำหรับการสร้างรั้วเพียง 1.375 พันล้านดอลลาร์ โดยมีความยาว 55 ไมล์ ไม่ใช่กำแพงคอนกรีตความยาว 215 ไมล์ตามที่ปธน.ทรัมป์ต้องการ

การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าว ทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถดึงงบประมาณส่วนที่ขาดอยู่จากหน่วยงานอื่นได้ เพื่อให้ครบวงเงินสำหรับการสร้างกำแพงตามที่เขาต้องการ โดยคาดว่าปธน.ทรัมป์จะโยกงบประมาณมาจากกระทรวงการคลัง และกระทรวงกลาโหม

ด้านคณะกรรมการตุลาการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐประกาศว่า ได้เปิดการสอบสวนในทันทีหลังจากปธน.ทรัมป์ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ โดยคณะกรรมการฯ ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวของปธน.ทรัมป์ เพื่อดึงเงินงบประมาณของรัฐบาลกลางไปใช้ในการสร้างกำแพงกั้นสหรัฐ-เม็กซิโกนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฏหมายของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ