สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครต กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อเพื่อลงมติคัดค้านการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งได้ประกาศไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อหาเงินสร้างกำแพงตามแนวชายแดนสหรัฐกับเม็กซิโก
รายงานข่าวระบุว่า ส.ส.พรรคเดโมแครตมีแผนที่จะประกาศข้อมติดังกล่าวในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ โดยขณะนี้มีส.ส.ลงชื่อสนับสนุนแล้ว 92 ราย ซึ่งเมื่อมีการประกาศจริงแล้ว ก็อาจใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะนำไปอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งครองเสียงข้างมากโดยพรรคเดโมแครต
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังไม่นานมานี้ ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อออกกฎหมายอนุมัติงบประมาณสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนที่ติดกับเม็กซิโก โดยไม่ต้องผ่านการรับรองจากสภาคองเกรส และกล่าวว่า สหรัฐเผชิญกับการบุกรุกของนักค้ายาเสพติด และนักค้ามนุษย์ รวมทั้งคลื่นผู้อพยพจำนวนมากที่ต้องการหลบหนีเข้ามาในสหรัฐ ทำให้สหรัฐมีความจำเป็นต้องสร้างกำแพงเพื่อสกัดกั้นคนเหล่านี้
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ยอมรับว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวจะทำให้เขาถูกฟ้อง ซึ่งเขาก็จะต่อสู้ถึงศาลฎีกา และคาดว่าจะได้รับชัยชนะในที่สุด
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ปธน.ทรัมป์ต้องการงบประมาณสร้างกำแพงจำนวน 8 พันล้านดอลลาร์ แต่ในร่างกฎหมายงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสนั้น มีการเจียดงบประมาณสำหรับการสร้างรั้วเพียง 1.375 พันล้านดอลลาร์ โดยมีความยาว 55 ไมล์ ไม่ใช่กำแพงคอนกรีตความยาว 215 ไมล์ตามที่ปธน.ทรัมป์ต้องการ
การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าว ทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถดึงงบประมาณส่วนที่ขาดอยู่จากหน่วยงานอื่นได้ เพื่อให้ครบวงเงินสำหรับการสร้างกำแพงตามที่เขาต้องการ โดยคาดว่าปธน.ทรัมป์จะโยกงบประมาณมาจากกระทรวงการคลัง และกระทรวงกลาโหม
ด้านอัยการจาก 16 รัฐในสหรัฐ รวมถึงแคลิฟอร์เนีย ได้ร่วมกันยื่นฟ้องปธน.ทรัมป์ โดยการฟ้องร้องดังกล่าวนำโดยนายซาเวียร์ เบเซอร์รา อัยการสูงสุดประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย และได้ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐของรัฐแคลิฟอร์เนียในซานฟรานซิสโก ซึ่งมีอัยการจากรัฐอื่นๆ เข้าร่วมได้แก่ โคโลราโด คอนเนตทิกัต เดลาแวร์ ฮาวาย อิลลินอยส์ เมน แมรี่แลนด์ มิชิแกนมินนิโซตา เนวาดา นิวเจอร์ซีย์ นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก โอเรกอน และเวอร์จิเนีย
นายเบเซอร์ราระบุในแถลงการณ์ว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินและการโยกย้ายเงินงบประมาณของปธน.ทรัมป์นั้น เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญและรัฐต่างๆ ได้ร่วมกันพยายามที่จะสกัดกั้นการประกาศภาวะฉุกเฉินของรัฐบาลปธน.ทรัมป์ การสร้างกำแพงกั้นชายแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต และการโยกย้ายงบประมาณที่จัดสรรโดยสภาคองเกรส