นางคิม ซอง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้เรียกร้องให้องค์การระหว่างประเทศช่วยแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนอาหารในเกาหลีเหนือ โดยระบุว่า สถานการณ์ภายในประเทศย่ำแย่ลงหลังจาก UN ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ
นายคิมได้เปิดเผยข้อเรียกร้องดังกล่าวผ่านทางหนังสือเวียน โดยระบุว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติและผลกระทบรุนแรงที่มาจากการคว่ำบาตรของ UN นั้น ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งอุปกรณ์การเกษตร และการเข้าถึงปิโตรเลียมกลั่นสำหรับภาคเกษตรกรรมที่มีอยู่อย่างจำกัดมาก
"มาตรการคว่ำบาตรที่จำกัดการส่งอุปกรณ์ทางการเกษตรที่มีความจำเป็นนั้น คืออีกเหตุผลสำคัญ" ทูตเกาหลีเหนือกล่าว โดยได้อธิบายถึงความยากลำบากในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการเกษตรเช่น รถแทร็คเตอร์ เครื่องเก็บและหว่านเมล็ดพืช รวมไปถึงปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เกาหลีเหนือได้เผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อันเนื่องมาจากการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2549
รายงานระบุว่า ในปี 2560 เกาหลีเหนือได้เผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งครอบคลุมถึงการจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและน้ำมันดิบของเกาหลีเหนือ รวมถึงมีการคว่ำบาตรการนำเข้าถ่านหินด้วย