ผลสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ที่จัดทำขึ้นโดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามกว่า 60% เชื่อว่า ความเคลื่อนไหวของสหรัฐในการต่อต้านธุรกิจของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีจากจีน มีแรงจูงใจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง
รายการข่าวธุรกิจ "Quest Means Business" ดำเนินรายการโดยริชาร์ด เควสท์ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ CNN ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านทวิตตอร์ซึ่งระบุว่า ผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามในโพลล่าสุดจำนวน 61% เลือกเหตุผลทางด้านการเมือง จากคำตอบทั้งหมด 4 ตัวเลือก ต่อคำถามในหัวข้อที่ระบุว่า "คุณคิดว่าปัจจัยใดอยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวของสหรัฐในการรณรงค์ต่อต้านหัวเว่ย" ขณะที่อีก 24% เลือกคำตอบด้านความมั่นคง ส่วน 13% มองว่าเป็นด้านธุรกิจ และอีก 2% ชี้ว่าเป็นปัจจัยด้านอื่น
เคนท์ แอนเดอร์สัน ผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่ง แสดงความคิดเห็นที่ปรากฎด้านล่างผลโพลของซีเอ็นเอ็น โดยระบุว่า "ทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับส่วนแบ่งการตลาดเครือข่าย 5G ทั้งสิ้น หัวเว่ยเป็นผู้นำในอุปกรณ์ด้านเครือข่ายมาเป็นเวลานานหลายสิบปี พวกเขาพร้อมที่จะให้บริการ 5G แล้วทั่วโลก แต่สหรัฐและอีกหลายประเทศก็ต้องการส่วนแบ่งดังกล่าวด้วยเช่นกัน"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ที่ผ่านมา สหรัฐพยายามโน้มน้าวชาติพันธมิตรให้ระงับความร่วมมือกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีสื่อสาร 5G ซึ่งหัวเว่ยเป็นผู้ให้บริการชั้นนำในตลาด