นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐกล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่าวุฒิสภจะลงมติผ่านร่างกฏหมายที่จะสกัดกั้นความพยายามของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อหางบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐกับเม็กซิโก แม้ไม่มีแนวโน้มว่า สภาคองเกรสจะสามารถล้มล้างการใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้ของประธานาธิบดีที่อาจจะมีขึ้นก็ตาม
"ผมคิดว่าสิ่งที่ชัดเจนในวุฒิสภาก็คือ จะมีคะแนนเสียงมากพอที่จะผ่านมติขัดขวางการประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งก็จะถูกวีโต้โดยประธานาธิบดี และมีโอกาสที่จะมีการวีโต้ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐตามมาด้วย" นายแมคคอนเนลล์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในรัฐเคนตักกี้
ทั้งนี้ คาดว่า วุฒิสภาจะทำการโหวตร่างกฎหมายดังกล่าวก่อนที่สมาชิกสภาจะเดินทางออกนอกเมืองในช่วงหยุดพักสมัยประชุมระยะยาวในวันที่ 15 มี.ค.
วุฒิสภาสหรัฐมีแนวโน้มที่จะรวบรวมคะแนนโหวตสนับสนุนได้จากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ขณะที่นายแรนด์ พอล วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันส่งสัญญาณในช่วงสุดสัปดาห์ว่า เขาจะเข้าร่วมกับวุฒิสมาชิกรีพับลิกันอีกสามคนเพื่อสนับสนุนมติดังกล่าว
"ผมไม่สามารถลงมติเพื่อให้ประธานาธิบดีมีอำนาจในการใช้จ่ายเงินที่ไม่ได้รับการจัดสรรโดยสภาคองเกรส" นายพอลกล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น เคนตักกี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า พรรครีพับลิกันมีที่นั่งในวุฒิสภาเพียง 53 ที่นั่ง ดังนั้น การแปรพักต์ของวุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มจะทำให้การโหวตมติที่จะขัดขวางปธน.ทรัมป์ สามารถผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภา
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติในช่วงกลางเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อดึงงบประมาณจากด้านอื่นมาใช้สำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก หลังจากที่สภาคองเกรสจัดสรรงบประมาณบางส่วนสำหรับการก่อสร้างสิ่งกีดขวางตามแนวพรมแดนเท่านั้น ซึ่งลดลงจากงบประมาณที่ทรัมป์เสนอไปก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก