นายสตีฟ แบนนอน อดีตหัวหน้านักยุทธศาสตร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐกล่าวว่า หากปธน.ทรัมป์รอดพ้นจากกรณีการสอบสวนที่เกี่ยวกับการรณรงค์หาเสียงและการดำเนินธุรกิจ ปธน.ทรัมป์ก็จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2563 ที่ยิ่งใหญ่กว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2559
นายแบนนอนกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโดว่า ในขณะที่การสอบสวนของเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ตรวจสอบของรัฐบาลกลาง และสมาชิกพรรคเดโมแครตในรัฐสภา จะก่อให้เกิด "หมอกแห่งสงคราม" ซึ่งทำให้ยากที่จะมองเห็นภาพที่ชัดเจน "เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่ผมรู้ในวันนี้ และพิจารณาถึงความยากลำบากที่ทรัมป์จะเผชิญ ผมคิดว่า ปธน.ทรัมป์จะรอดพ้นจากการสอบสวนอย่างแน่นอน"
"ผมคิดว่า ปธน.ทรัมป์จะกลายเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งและเข้มแข็งมากขึ้น" นายแบนนอนกล่าว และคาดการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์จะสามารถกวาดคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งได้ถึง 320-325 เสียง หลังจากที่การเลือกตั้งในปี 2559 นั้น ปธน.ทรัมป์สามารถเอาชนะนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตได้ด้วยคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 304 ต่อ 227 เสียง
นายแบนนอนได้กล่าวที่กรุงโตเกียวเมื่อวานนี้ว่า ขณะที่พรรคเดโมแครตพยายามจะใช้อำนาจในการสอบสวนเป็นอาวุธ และจากรายงานของนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษที่สอบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2559 นั้น บ่งชี้ว่า ไม่ได้มีการสมรู้ร่วมคิดระหว่างรัสเซียและทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์
ในการให้สัมภาษณ์กับเกียวโดนั้น นายแบนนอนยังได้เตือนว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งนั้น จะขึ้นอยู่กับปธน.ทรัมป์ในการปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้ในการรณรงค์หาเสียงด้วยการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐและเม็กซิโก ซึ่งปธน.ทรัมป์ระบุว่า กำแพงดังกล่าวจะช่วยขัดขวางการหลั่งไหลเข้ามาของผู้อพยพผิดกฎหมาย ยาเสพติด และอาชญากรรม ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามของปธน.ทรัมป์ได้ประณามโครงการดังกล่าวว่าไร้ประสิทธิภาพและแบ่งแยกเชื้อชาติ