นายแลร์รี คุดโลว์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนที่จะปรับลดงบประมาณการใช้จ่ายในประเทศลง 5% ในปีงบประมาณ 2563
"ท่านประธานาธิบดีกำลังเสนอให้มีการปรับลดงบประมาณการใช้จ่ายในประเทศเป็นวงกว้าง โดยคาดว่าจะลดลงประมาณ 5%" นายคุดโลว์กล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปธน.ทรัมป์มีกำหนดยื่นร่างงบประมาณประจำปี 2563 ต่อสภาคองเกรสในวันนี้
"งบประมาณรอบนี้จะค่อนข้างตึงตัว เราจะจำกัดงบประมาณในปีนี้ และผมคิดว่าเราดำเนินการเรื่องนี้ล่าช้ามากเกินไปแล้ว" นายคุดโลว์กล่าว พร้อมกับกล่าวว่า ข้อตกลงเรื่องงบประมาณล่าสุด การปรับลดการใช้จ่ายในประเทศถือเป็น "ทางเลือกที่ถูกต้อง"
"หากคุณต้องการรับมือกับตัวเลขขาดดุลงบประมาณ คุณก็ควรดำเนินการในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับการรักษานโยบายการปรับลดภาษี เราเชื่อว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 3% ในปี 2561 จะยังคงดำเนินต่อไปใน 2562 ไปจนถึงปี 2563 และปีถัดๆไป" นายคุดโลว์กล่าว
เมื่อนายคริส วอลเลส ผู้ดำเนินรายการของสถานีฟ็อกซ์สอบถามว่า เหตุในปธน.ทรัมป์จึงไม่สนใจเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณและหนี้มากเท่ากับสมัยอดีตปธน.เรแกน นายคุดโลว์ตอบว่า "ผมไม่คิดว่า นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในระดับที่ดีนั้น จะต้องยึดติดกับเรื่องการขาดดุลงบประมาณมากเกินไป"
นายคุดโลว์กล่าวว่า เขาคาดว่ารัฐบาลสหรัฐจะขาดดุลงบประมาณราว 4.5-5% ของตัวเลข GDP ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา