กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) ได้ยื่นรายชื่อโครงการด้านทหารต่อสภาคองเกรส โดยคาดว่าโครงการเหล่านี้อาจจะถูกกระทบจากแผนการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
โครงการดังกล่าวครอบคลุมถึงโรงซ่อมบำรุงอุปกรณ์ทางทหาร สถานที่ฝึกฝนทางทหาร และโรงเรียนสำหรับครอบครัวทหาร โดยบางโครงการได้ถูกวางแผนให้จัดตั้งขึ้นในดินแดนสหรัฐ และมีบางโครงการที่วางแผนว่าจะเข้าไปตั้งในประเทศอื่นๆ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องงบประมาณ 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการต่างๆเหล่านี้ เพื่อใช้ในการสร้างกำแพงดังกล่าว
ในบันทึกที่รวมอยู่ในรายชื่อโครงการต่างๆนั้น กระทรวงกลาโหมสหรัฐระบุว่า ทางกระทรวงได้รวมงบประมาณวงเงิน 3.6 พันล้านดอลลาร์คำร้องของบประมาณประจำปี 2563 เพื่อเป็นหลักประกันในการก่อสร้างโครงการต่างๆที่ได้รับผลกระทบ
รายชื่อโครงการเหล่านี้ได้ยื่นต่อสมาชิกสภาคองเกรสหลังจากนายแพททริค ชานาฮาน รัฐมนตรีมหาดไทยของสหรัฐได้ให้คำมั่นว่าจะส่งมอบข้อมูลดังกล่าว และคาดว่ารายชื่อโครงการเหล่านี้จะเพิ่มน้ำหนักให้กับบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสที่ต่อต้านการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของปธน.ทรัมป์
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติในช่วงกลางเดือนก.พ. เพื่อดึงเงิน 3.6 พันล้านดอลลาร์จากงบก่อสร้างของกองทัพมาใช้สำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก หลังจากที่สภาคองเกรสอนุมัติการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวเพียง 1.4 พันล้านดอลลาร์ จากที่เขาเสนอไปจำนวน 5.7 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม วุฒิสภาสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง 59-41 เสียง เห็นชอบต่อร่างกฎหมายคัดค้านการที่ปธน.ทรัมป์ใช้อำนาจประธานาธิบดีประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเกี่ยวกับชายแดนทางตอนใต้ของประเทศ