นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ยังคงวิจารณ์จีนอย่างต่อเนื่องในประเด็นการค้า แม้ก่อนหน้านี้ไม่นาน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้เข้ามาร่วมการประชุมที่ฝรั่งเศสเพื่อคลายความกังวลก็ตาม
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครองของฝรั่งเศส นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และของนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ประชุมร่วมกันที่ฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา และเห็นพ้องกันที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป (EU) รวมถึงการร่วมมือด้านธรรมภิบาลทั่วโลก
ปธน.สีกล่าวว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นของสถานการณ์ระหว่างประเทศและกระแสการกีดกันทางการค้า จีนมีความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเพื่อส่งเสริมระบบพหุภาคีที่มั่นคง พัฒนาธรรมาภิบาลทั่วโลก และร่วมมือแก้ไขความท้าทายทั่วโลก
อย่างไรก็ดี นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ฝั่งยุโรปมีความกังวลเพราะบริษัทจีนสามารถเข้าถึงตลาดยุโรปได้อย่างเสรี แต่บริษัทยุโรปเข้าถึงตลาดจีนได้ไม่มากเท่า
นอกจากนี้ นายยุงเกอร์ยังเปิดเผยด้วยว่า การที่บริษัทจีนเข้ามาลงทุนในยุโรปนั้น ได้สร้างอิทธิพลครอบงำนโยบายต่างประเทศของยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะชาติสมาชิก EU อาจไม่กล้าวิจารณ์การกระทำของจีนเนื่องจากกังวลว่าจะกระทบต่อการลงทุนในประเทศ
สำหรับโครงการ Belt and Road ของรัฐบาลจีนที่เพิ่งมีการลงนามบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลอิตาลี ท่ามกลางเสียงสนับสนุนและคัดค้านจากประเทศต่างๆนั้น นายยุงเกอร์เปิดเผยว่า ตนไม่คัดค้านโครงการดังกล่าวตราบเท่าที่ยุโรปได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ทั้งในแง่กำไรของภาคธุรกิจยุโรปและแรงงานที่ทำงานตามจุดก่อสร้างอันเป็นผลจากโครงการนี้
ทั้งนี้ โครงการ Belt and Road เป็นโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานข้ามพรมแดนที่รัฐบาลจีนริเริ่มขึ้น เพื่อเชื่อมโยงจีนเข้ากับเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และแอฟริกา โดยมีรากฐานมาจากเส้นทางสายไหมในอดีต