คณะกรรมการกำกับดูแลและปฏิรูปของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐส่งสัญญาณว่า ทางคณะกรรมการฯ จะดำเนินการสอบสวนทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกใบอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลชั้นความลับ (security clearance) หลังจากที่มีผู้แจ้งเบาะแสรายหนึ่งแสดงหลักฐานเพิ่มขึ้น
คณะกรรมการฯ ระบุในจดหมายที่ส่งถึงนายแพต ซิโพลโลน ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่า "คณะกรรมการฯ มีแผนที่จะดำเนินการตามกระบวนการบังคับ และเริ่มอนุญาตให้ออกหมายศาล โดยเริ่มตั้งแต่การประชุมภาคธุรกิจซึ่งจัดขึ้นในวันนี้"
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯได้ทำการออกจดหมายฉบับนี้ หลังจากผู้แจ้งเบาะแสของทำเนียบขาวรายหนึ่ง ได้แจ้งกับคณะกรรมการกำกับดูแลฯ ว่า ทำเนียบขาวได้ออกใบอนุญาตในการเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับ หรือสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลด้านความมั่นคงแห่งชาติ แม้จะมีคำแนะนำให้ปฏิเสธการออกใบอนุญาตดังกล่าวก็ตาม
สำหรับผู้แจ้งเบาะแสดังกล่าวได้แก่ นางทริเซีย นิวโบลด์ ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ทำงานมายาวนานถึง 18 ปีที่สำนักงานรักษาความปลอดภัยบุคลากร โดยนางนิวโบลด์เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ว่า การขอใบอนุญาตเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับสำหรับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวนั้น ไม่ได้รับการอนุมัติเสมอไป ทั้งนี้ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดด้านความมั่นคงแห่งชาติ" จดหมายระบุ
นอกจากนี้ จดหมายดังกล่าวยังระบุว่า คณะกรรมการกำกับดูแลฯ มีความประสงค์ที่จะสัมภาษณ์ นายคาร์ล ไคลน์ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยบุคลากรของทำเนียบขาวในช่วง 2 ปีแรกของคณะบริหารของปธน.ทรัมป์ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบข่าวทั้งในอดีต และปัจจุบันอีกหลายคน
"คณะกรรมการฯ เคารพอำนาจของประธานาธิบดีในการออกใบอนุญาตเข้าถึงข้อมูลชั้นความลับ อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวก็จะต้องเคารพอำนาจที่เท่าเทียมกัน และเป็นอิสระของสภาคองเกรสด้วย เพื่อตรวจสอบผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลชั้นความลับของประเทศชาติ วิธีที่พวกเขาได้รับการอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลชั้นความลับ รวมถึงขอบเขตที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ" จดหมายดังกล่าวระบุ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะกรรมการกำกับดูแลของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนำโดยนายอีไลจาห์ คัมมิ่งส์ สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรคเดโมแครต ได้เริ่มการสอบสวนในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบว่า ทำเนียบขาวปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมหรือไม่ในการอนุญาตให้บุคคลใดๆ เข้าถึงข้อมูลชั้นความลับ โดยคณะกรรมการฯ ระบุว่า ทำเนียบขาวไม่ได้ปฏิบัติตามการสอบสวน