นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ออกโรงเตือนว่า ชาวออสเตรเลียอาจเผชิญกับภาระภาษีมูลค่า 3.87 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 2.758 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ถ้าหากตัวเขาแพ้การเลือกตั้งในวันที่ 18 พ.ค. นี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตามตัวเลขที่กระทรวงการคลังออสเตรเลียเปิดเผยนั้น พรรคแรงงานออสเตรเลีย (ALP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน มีแผนภาษีที่จะส่งผลให้ประชาชนออสเตรเลียต้องจ่ายภาษีมากกว่าแผนเดิมของพรรคเสรีนิยมและพรรคชาติ (LNP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลผสม เพิ่มขึ้นถึง 3.87 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในช่วง 10 ปีข้างหน้า
กระทรวงการคลังเปิดเผยว่า หากพรรค ALP ชนะการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ทางพรรคได้วางแผนที่จะยกเลิกเงินช่วยเหลือภาษีส่วนบุคคลมูลค่า 2.3 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.639 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของพรรค LNP นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอื่นที่จะเพิ่มรายจ่ายให้กับชาวออสเตรเลียอีกประมาณ 1.57 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.119 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นายมอร์ริสันกล่าวในรายการของสถานีโทรทัศน์ เน็ตเวิร์ค ไนน์ ว่า "พรรค ALP ต้องการที่เรียกเก็บภาษีจากเศรษฐกิจเราสูงกว่าเดิมถึง 3.87 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะฉุดรั้งประเทศ ฉุดรั้งชาวออสเตรเลียทุกคน ทุกๆครัวเรือนทั่วประเทศ ภาษีพวกนั้นจะฉุดรั้งเศรษฐกิจ และฉุดรั้งเราทุกคน"
นายมอร์ริสันยังกล่าวด้วยว่า "นั่นคือเหตุที่ว่า เศรษฐกิจอันแข็งแกร่งที่เรามีอยู่นั้น คือทางเลือกที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้า จะรักษาเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งไว้ หรือจะเลือกบิล ชอร์ทเทิน หัวหน้าพรรค ALP เพื่อเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่า"