คณะกรรมการการเลือกตั้งของอินโดนีเซียแถลงในวันนี้ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ได้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บ จากความเหนื่อยล้าในการปฏิบัติหน้าที่ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 17 เม.ย.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศที่ได้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่มีจำนวน 409 ราย ส่วนผู้ที่พิการ หรือได้รับบาดเจ็บ มีจำนวน 3,658 ราย
ผู้ที่เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชย 36 ล้านรูเปียห์ (2,500 ดอลลาร์) หรือราว 80,000 บาท ส่วนผู้ที่พิการจะได้รับเงินชดเชย 30 ล้านรูเปียห์ (2,100 ดอลลาร์) หรือราว 67,200 บาท และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับเงิน 16 ล้านรูเปียห์ (1,122 ดอลลาร์) หรือราว 35,900 บาท โดยการจ่ายเงินเยียวยาจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้
สภาพทางภูมิศาสตร์ของอินโดนีเซีย ซึ่งประกอบด้วยเกาะต่างๆราว 18,000 เกาะ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขนส่งหีบเลือกตั้งอย่างยากลำบาก โดยมีการใช้ม้า และเรือแคนู รวมทั้งการเดินทางผ่านป่า, ภูเขา และแม่น้ำ
นอกจากนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้ของอินโดนีเซีย นับเป็นครั้งแรกที่ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งลงคะแนนเลือกประธานาธิบดี, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา, สมาชิกสภานิติบัญญัติระดับจังหวัด รวมทั้งสมาชิกสภาเขตและสภาเมือง ภายในวันเดียวกัน ขณะที่จำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงทั้งหมดสูงถึง 193 ล้านคน โดยผู้ที่อยู่ในวัย 17-35 ปีมีจำนวน 80 ล้านคน ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนประชากรของเยอรมนี, จำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศมีมากถึง 245,000 คน และหน่วยลงคะแนนเลือกตั้งมีจำนวนมากกว่า 800,000 หน่วย
Lowy Institute ซึ่งเป็นสถาบันวิเคราะห์ของออสเตรเลียระบุว่า การเลือกตั้งของอินโดนีเซียในครั้งนี้ถือเป็นการเลือกตั้งภายในวันเดียวที่มีความซับซ้อนมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก
นายเวอร์ยัน อาซิส ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งของอินโดนีเซีย กล่าวว่า ควรมีการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง โดยแยกการเลือกตั้งประธานาธิบดี ออกจากการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต