วุฒิสภาสหรัฐไม่สามารถยับยั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัป์ ในการใช้สิทธิวีโต้มติของสภาคองเกรสที่เรียกร้องให้สหรัฐยุติการสนับสนุนการทำสงครามภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบียในประเทศเยเมน หลังจากการโหวตในที่ประชุมวุฒิสภาจบลงด้วยคะแนนเสียง 53 ต่อ 45 ซึ่งไม่ถึง 2 ใน 3 ส่งผลให้ไม่สามารถยับยั้งสิทธิวีโต้ของปธน.ทรัมป์ได้
เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา วุฒิสภามีมติเรียกร้องให้สหรัฐยุติการสนับสนุนกองทัพซาอุดีอาระเบียในการทำงครามในประเทศเยเมน และสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐได้ลงมติเห็นชอบในเรื่องดังกล่าวในเดือนเม.ย. โดยสภาคองเกรสได้เรียกร้องให้ปธน.สหรัฐมีคำสั่งถอนกำลังทหารออกจากสงครามในเยเมนหรือที่เกี่ยวข้องกับเยเมนภายใน 30 วัน เว้นแต่ว่ากองกำลังทหารจะทำการต่อสู้กับกลุ่มอัลกออิดะห์
ปธน.ทรัมป์ได้ใช้สิทธิวีโต้มติดังกล่าวในเดือนเม.ย. โดยกล่าวว่า มติดังกล่าวเป็นความพยายามที่ไม่จำเป็นและยังอันตรายสำหรับการบั่นทอนอำนาจตามรัฐธรรมนูญของตนเอง และยังเป็นอันตรายต่อชีวิตของพลเรือนชาวอเมริกัน ตลอดจนสมาชิกของกองกำลังที่กล้าหาญ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำกลุ่มกองกำลังชาติอาหรับที่ทำการแทรกแซงเยเมนเมื่อปี 2558 เพื่อสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดี อับด์-ราบบู มานซูร์ ฮาดี ที่ถูกกลุ่มกบฏฮูตีเนรเทศและยึดครองพื้นที่ทางตอนเหนือส่วนใหญ่ของประเทศซึ่งรวมถึงกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน