นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ได้เห็นพ้องเรื่องการจัดการเจรจาเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธ รวมถึงประเด็นกลยุทธ์และความมั่นคงระหว่างสองประเทศในมิติที่กว้างขึ้น
กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้เปิดเผยคำกล่าวของนายลาฟรอฟ ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกันกับนายปอมเปโอว่า ทั้งสองประเทศกำลังประสานงานเพื่อจัดการประชุมสุดยอดระหว่าง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในระหว่างการประชุม G20 ช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่โอซาก้า ทั้งนี้ การแถลงข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ รมต. ต่างประเทศทั้งสองได้พบปะกันที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย
นายปอมเปโอ กล่าวว่า สหรัฐต้องการเจรจาต่อรองเรื่องการควบคุมอาวุธใหม่ ซึ่งไม่ได้จำกัดเฉพาะสหรัฐและรัสเซียเท่านั้น แต่รวมถึงคู่ปรับทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกของสหรัฐอย่างประเทศจีนด้วย
รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ทั้งสองประเทศเห็นชอบให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานต่างๆ ซึ่งนอกจากงานประเภทที่ต้องริเริ่มขึ้นมาใหม่รวมถึงการขยายขอบเขตของงานแล้ว ประเด็นเรื่องการควบคุมอาวุธของแต่ละประเทศในขอบเขตที่กว้างขึ้นก็ต้องถูกนำมาพิจารณาเช่นกัน ซึ่งผมคิดว่าการให้ความสำคัญต่อความสนใจของทั้งสหรัฐและรัสเซียนั้น จะทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงร่วมกัน"
อย่างไรก็ดี เนื่องจากสหรัฐได้ถอนตัวจากสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty) ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ได้มีการลงนามเมื่อปี 2530 กับรัสเซีย ดังนั้นการขยายระยะเวลาของสนธิสัญญาลดอาวุธเชิงยุทธศาสตร์ที่สหรัฐและรัสเซียได้ลงนามร่วมกันอีกฉบับไปเมื่อปี 2553 และจะหมดอายุในเดือน ก.พ. 2564 จึงยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
"ประธานาธิบดีมีคำสั่งให้ทีมงานด้านความมั่นคงของประเทศวางแนวคิดเรื่องการควบคุมอาวุธให้ขอบเขตกว้างๆ และให้รวมประเทศอื่นๆที่นอกเหนือจากสหรัฐและรัสเซียเข้ามาด้วย ระบบอาวุธจะต้องมีขอบเขตที่กว้างขึ้น" นายปอมเปโอ กล่าว