เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจะเปิดเผยแผนการคุมเข้มความปลอดภัยชายแดนและยกเครื่องระบบผู้อพยพเข้าเมืองโดยถูกกฎหมาย ในวันนี้ เพื่อที่จะให้สิทธิกับผู้ขออพยพเข้าสู่สหรัฐซึ่งสามารถที่จะพูดภาษาอังกฤษ มีการศึกษาดี และมีการเสนองานให้ทำ
ข้อเสนอเรื่องผู้อพยพของปธน.ทรัมป์ ซึ่งมาจากนายจาเร็ด คุชเนอร์ และนายสตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาระดับสูง และนายเควิน ฮาสเซตต์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจนั้น เป็นความพยายามที่จะประสานรอยร้าวของสมาชิกพรรครีพับลิกันในประเด็นดังกล่าวที่มักทำให้พวกเขาแตกแยกกัน
ขณะที่มีโอกาสน้อยที่สภาคองเกรสจะอนุมัติข้อเสนอดังกล่าว แผนการของปธน.ทรัมป์ก็อาจทำให้สมาชิกพรรครีพับลิกันสามารถพูดได้ว่าพวกเขาให้สิทธิกับผู้อพยพ ขณะที่ปธน.ทรัมป์และส.ส.พรรครีพับลิกันต้องหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกสภาคองเกรสในเดือนพ.ย. 2563 ซึ่งเรื่องของผู้อพยพเป็นประเด็นที่สำคัญ
เจ้าหน้าที่เปิดเผยด้วยว่า แผนการของปธน.ทรัมป์จะยังคงจำกัดจำนวนผู้อพยพเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายไว้ที่ 1.1 ล้านคนต่อปี แต่การอพยพแบบครอบครัวจะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1 ใน 3 ขณะที่ผู้อพยพที่มีงานทำและมีความเชี่ยวชาญสูงนั้น จะได้รับสิทธิเป็นอันดับแรก และ สามารถที่จะอพยพคู่สมรสและบุตรเข้าไปยังสหรัฐ
ทั้งนี้ เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่กฎหมายผู้อพยพของสหรัฐได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการอพยพแบบครอบครัว และประมาณ 2 ใน 3 ของประชาชนที่ได้รับกรีนการ์ดในแต่ละปีนั้น มีครอบครัวที่เกี่ยวพันกับประชาชนในสหรัฐ