เจ้าหน้าที่ตัวแทนเจรจาการค้าของสหรัฐและเม็กซิโกได้เสร็จสิ้นการประชุมแล้วในวันพุธตามเวลาสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในประเด็นการค้า และประเด็นผู้อพยพ ซึ่งการเจรจาดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกจะมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนแตะระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค. ถ้าเม็กซิโกไม่สามารถสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า คณะเจรจาของสหรัฐได้รับฟังแนวคิดของเจ้าหน้าที่เม็กซิโกเกี่ยวกับการสกัดกั้นการลักลอบเข้าสหรัฐของผู้อพยพเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย หลังปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้รัฐบาลเม็กซิโกเพิ่มความเข้มงวดในการกวาดล้างกลุ่มผู้อพยพดังกล่าว
แหล่งข่าวจากทำเนียบขาวได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่จากเม็กซิโกและตัวแทนการเจรจาของสหรัฐ ซึ่งนำโดยนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐนั้น จะไม่ช่วยให้ปธน.ทรัมป์ยกเลิกคำสั่งเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก