ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐระบุว่า การเจรจาระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกมีความคืบหน้าไม่มากพอ ในประเด็นการลดจำนวนการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติด ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ว่า สหรัฐจะดำเนินการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเม็กซิโกในสัปดาห์หน้า
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและเม็กซิโกได้เสร็จสิ้นการหารือกันที่ทำเนียบขาวในวันพุธตามเวลาสหรัฐ และปธน.ทรัมป์กล่าวว่า การเจรจาจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้
"หากไม่มีการบรรลุข้อตกลง การเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 5% ก็จะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ โดยจะปรับขึ้นรายเดือนตามที่กำหนดไว้" ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันพุธ พร้อมระบุว่า "ยิ่งภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้น บริษัทจำนวนมากขึ้นก็จะย้ายกลับมายังสหรัฐ"
เจ้าหน้าที่ตัวแทนเจรจาการค้าของสหรัฐและเม็กซิโกได้เสร็จสิ้นการประชุมแล้วในวันพุธตามเวลาสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในประเด็นการค้า และประเด็นผู้อพยพ ซึ่งการเจรจาดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกจะมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนแตะระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค. ถ้าเม็กซิโกไม่สามารถสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ