รัฐบาลสหรัฐได้ออกมาวิจารณ์ทางการอิหร่าน ซึ่งได้ประกาศที่จะเพิ่มจำนวนยูเรเนียมเสริมสมรรถนะต่ำให้สูงกว่าขีดจำกัดที่เคยตกลงไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์เมื่อปี 2558 โดยทางสหรัฐประณามว่าเป็นการ "แบล็คเมล์ทางนิวเคลียร์"
แกร์เร็ตต์ มาร์ควิส โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า "การแบล็คเมล์ทางนิวเคลียร์ของอิหร่านจำเป็นต้องเผชิญกับมาตรการกดดันจากนานาประเทศ"
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความสั้น ๆ ว่า "อิหร่านใกล้ฝ่าฝืนขีดจำกัดในการเก็บยูเรเนียม"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าว ซึ่งอิหร่านและประเทศอื่น ๆ ได้สานต่อ แม้ว่าสหรัฐได้ถอนตัวออกไปเมื่อเดือนพ.ค. 2561 นั้น โดยข้อตกลงดังกล่าวได้จำกัดโควต้าการเก็บยูเรเนียมเสริมสมรรถนะต่ำของอิหร่านไว้ที่ 300 กิโลกรัม และห้ามอิหร่านเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสูงกว่า 3.67%
อย่างไรก็ดี องค์การพลังงานปรมาณูของอิหร่าน (AEOI) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ทางการได้เร่งเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเกรดต่ำขึ้นอีก 4 เท่า นับตั้งแต่ที่อิหร่านได้ประกาศว่า จะไม่ยอมทำตามระเบียบบางประการของข้อตกลงนิวเคลียร์เมื่อเดือนที่ผ่านมา
นายเบห์เราซ์ คามัลวานดี โฆษกของ AEOI กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เราจะเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเกรดต่ำให้ได้มากกว่า 300 กิโลกรัมภายในวันที่ 27 มิ.ย."
นอกจากนี้ นายคามัลวานดียังกล่าวอีกด้วยว่า กระบวนการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมจะเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนี้
นายมาร์ควิส เปิดเผยว่า แผนเสริมสมรรถนะของอิหร่าน "เป็นเพราะข้อตกลงนิวเคลียร์อันยอดแย่นั้นไม่ได้เข้าไปจัดการศักยภาพของอิหร่านเลย"
นายมาร์ควิส กล่าวว่า "ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะไม่มีวันยอมให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์"