กองทัพเม็กซิโก ได้ส่งเจ้าหน้าที่เกือบ 15,000 นายประจำการอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ เพื่อสกัดการหลั่งไหลของกลุ่มผู้อพยพเข้าดินแดนสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีทั้งพลเมืองเม็กซิโก และพลเมืองประเทศอื่น ๆ ที่หวังใช้เม็กซิโกเป็นจุดหลบหนีเข้าสหรัฐ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เม็กซิโกกำลังพยายามลดจำนวนผู้อพยพเข้าสหรัฐ หลังทางการสหรัฐได้ขู่ไว้ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเม็กซิโกเพิ่มเติม หากเม็กซิโกไม่มีมาตรการกวดขันการตรวจชายแดน
นอกเหนือจากพื้นที่ทางตอนเหนือแล้ว ทางการเม็กซิโกยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ราว 6,500 นายไปประจำการในบริเวณตอนใต้ เพื่อสกัดการหลั่งไหลของกลุ่มผู้อพยพเข้าเม็กซิโกโดยมีจุดหมายที่สหรัฐด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนแตะระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค. ถ้าเม็กซิโกไม่สามารถสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ
เม็กซิโกมีเวลา 45 วัน ที่จะลดจำนวนผู้อพยพที่ต้องการเดินทางไปยังสหรัฐผ่านทางเม็กซิโก มิเช่นนั้น เม็กซิโกจะต้องเผชิญกับมาตรการจัดเก็บภาษีของสหรัฐ