ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวเตือนอิหร่านที่ประกาศว่าจะยกระดับการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมให้สูงกว่าขีดจำกัดที่ระบุไว้ในข้อตกลง ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดต่อข้อพิพาทด้านโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน จนอาจนำไปสู่ภาวะไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลาง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านจะเพิ่มระดับการเสริมสมรรถนะแร่ยูเนียมให้สูงกว่าขีดจำกัด โดยจะเพิ่มการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ซึ่งการส่งสัญญาณดังกล่าวของอิหร่านถือเป็นการกดดันประเทศพันธมิตรในยุโรปให้กอบกู้ข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 หลังจากที่สหรัฐได้ถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความระบุว่า "นายรูฮานีกล่าวว่า อิหร่านจะเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในระดับที่ต้องการ หากไม่มีข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่เกิดขึ้น" พร้อมระบุว่า "อิหร่านจงระวังคำขู่นั้น เพราะมันสามารถย้อนกลับมาเล่นงานคุณได้เหมือนที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน!"
อิหร่านประกาศว่าจะเริ่มสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เมืองอารัก และเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรเนียม หากกลุ่มประเทศยุโรปไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในวันเส้นตายวันที่ 7 ก.ค .
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวทาสนิมของอิหร่านรายงานโดยอ้างคำพูดของนายเบห์รูซ คามัลวานดี เจ้าหน้าที่องค์การพลังงานปรมาณูของอิหร่าน (AEOI) ว่า อิหร่านได้เพิ่มสมรรถนะยูเรเนียมได้ถึง 3.67% ในขณะที่สำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ (UN) รับทราบเรื่องการเสริมสมรรถนะแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มสมรรถนะในครั้งนั้นยังไม่เกินขีดจำกัดที่ได้ตกลงไว้