ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ได้เรียกร้องให้อิหร่านกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ หลังเมื่อวานนี้ อิหร่านได้ประกาศแผนเพิ่มการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่มีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นและในปริมาณที่สูงกว่าข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นเพราะชาติยุโรปไม่ทำตามความต้องการของอิหร่าน อย่างไรก็ดี ยุโรปยังไม่ได้ขู่ที่จะคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มเติม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังเมื่อวานนี้เป็นวันขีดเส้นตายที่อิหร่านกำหนดไว้เพื่อทำข้อตกลงชุดใหม่กับประเทศยุโรป ก่อนที่อิหร่านจะเสริมสมรรถนะเพิ่มเติม ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่จะสร้างสถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้นกับสหรัฐด้วยเช่นกัน
เมื่อวานนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายอาลี ไรบี โฆษกรัฐบาลอิหร่านกล่าวผ่านทางการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ว่า เราจะเสริมสมรรถนะเพิ่มสูงกว่า 3.67% และระดับของความบริสุทธิ์ของแร่ยูเรเนียมนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา และเรื่องนี้จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
เจ้าหน้าที่ของสำนักงานพลังงานปรมาณูอิหร่าน กล่าวว่า ระดับการเสริมสมรรถนะจะสูงกว่าเพดานที่กำหนดไว้ที่ 3.67% ขณะที่แหล่งข่าวของรัฐบาลอิหร่านกล่าวว่า การเสริมสมรรถนะจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5%
การเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมระดับต่ำจะอยู่ในช่วง 3-5% ซึ่งสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตาปฏิกรณ์ได้
อิหร่านได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า อาจจะเพิ่มการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมถึง 20% โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เมื่อมีการเสริมสมรรถนะถึง 20% เมื่อใด การเสริมสมรรถนะเกรดสำหรับอาวุธที่ 90% ก็ไม่ห่างไกลกันมากนักเท่านั้น
ชาติสมาชิก EU และสหราชอาณาจักร ได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของอิหร่าน โดยขณะนี้กำลังติดต่อกับฝ่ายอื่นที่มีส่วนในข้อตกลงนี้เพื่อหารือแนวทางรับมือต่อไป
นายอับบาส อารักคี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน เปิดเผยว่า การที่ชาติยุโรปยังไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของอิหร่านไม่ได้หมายความว่ายุโรปกับอิหร่านหมดโอกาสเจรจาแล้ว ขณะเดียวกันยังเผยว่า สหรัฐสามารถเข้าร่วมการเจรจานิวเคลียร์รอบใหม่ ซึ่งจะจัดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีอิหร่านและประเทศสมาชิกข้อตกลงนิวเคลียร์ 2558 เข้าร่วมการเจรจา
ทั้งนี้ Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA) คือชื่อทางการของข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านที่ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก ได้แก่ สหราชอาณาจักร จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา ทำร่วมกับอิหร่านในเดือนก.ค. 2558
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศการตัดสินใจเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่ผ่านมา ที่จะถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ดังกล่าว และกลับมาคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง