ประธานาธิบดีมูน แจ อิน ของเกาหลีใต้ ได้ออกมากล่าวเตือนญี่ปุ่นในวันนี้ หลังจากที่ญี่ปุ่นได้เดินหน้าใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีใต้ พร้อมย้ำถึงความสำคัญในการแก้ปัญหาด้วยการทูต
นายมูนระบุว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของญี่ปุ่นเป็นการจงใจที่จะขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ซึ่งญี่ปุ่น "จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ นายมูนยังได้กล่าวโจมตีข้อกล่าวหาของญี่ปุ่นที่ว่า สินค้าที่ใช้ได้สองทางอาจถูกลักลอบนำออกมาจากเกาหลีใต้ พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้เคารพต่อกฎการส่งออกของนานาชาติ และมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ทั้งนี้ คำกล่าวของนายมูนได้สะท้อนให้เห็นว่า เกาหลีใต้จะไม่ยอมจำนนต่อการกดดันทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา การเจรจาระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียวเพื่อคลี่คลายข้อพิพาทกรณีที่ญี่ปุ่นได้ควบคุมการส่งออกสารเคมีที่เกาหลีใต้ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ รวมทั้งหน้าจอทีวีและสมาร์ทโฟนนั้น ได้ประสบความล้มเหลว หลังจากที่ญี่ปุ่นยืนกรานว่า จะไม่มีการยกเลิกมาตรการดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้เป็นการละเมิดข้อกำหนดขององค์การการค้าโลก (WTO)
ที่ผ่านมานั้น เกาหลีใต้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการควบคุมการส่งออกสารเคมี ซึ่งได้แก่ fluorinated polyimides ซึ่งใช้ในการผลิตหน้าจอ, photosensitising agent resist ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตชิป และ hydrogen fluoride ซึ่งใช้เป็นก๊าซกัดกรดในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งตามข้อบังคับของญี่ปุ่น เกาหลีใต้จะต้องยื่นขอใบอนุญาตสำหรับสารดังกล่าว ขณะที่ญี่ปุ่นจะใช้เวลา 90 วันในการอนุมัติ
ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้ตกต่ำลงอย่างมาก นับตั้งแต่ที่ศาลสูงของเกาหลีใต้มีคำพิพากษาในปีที่แล้วให้บริษัทของญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยแก่คนงานเกาหลีใต้ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งญี่ปุ่นยึดคาบสมุทรเกาหลีเป็นอาณานิคมในปี 2453-2488