สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ปฏิเสธข้อเสนอจากทำเนียบขาวเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งรวมถึงการปรับลดงบประมาณรายจ่ายวงเงิน 1.5 แสนล้านดอลลาร์ แต่ไม่มีการระบุถึงการเพิ่มรายได้ของรัฐบาล หรือการปรับเพิ่มภาษีแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้ยื่นร่างงบประมาณระยะเวลา 2 ปีดังกล่าวให้แก่นางเพโลซีเมื่อวานนี้ โดยเรียกร้องให้พรรคเดโมแครตพิจารณาตัดงบประมาณวงเงิน 1.5 แสนล้านดอลลาร์
ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลและสภาคองเกรสกำลังร่วมมือกันแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ และเขามีความเชื่อมั่นว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อให้สหรัฐจะไม่เกิดการผิดนัดชำระหนี้
"ผมไม่คิดว่าตลาดจะต้องมาวิตกในเรื่องนี้ โดยทุกคนเห็นตรงกันว่า เราไม่ควรทำให้รัฐบาลเกิดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ และเราคิดว่าไม่มีใครอยากให้เกิดภาวะชัตดาวน์" นายมนูชินกล่าว
นายมนูชินเตือนว่า กระทรวงการคลังมีงบประมาณสำหรับการบริหารประเทศอีกเพียง 2 เดือน จนถึงเดือนก.ย. ซึ่งจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถชำระหนี้จำนวน 22 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่จะสะเทิอนตลาดการเงินทั่วโลก
ขณะนี้ สมาชิกสภาคองเกรส และฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้มีการผ่านกฎหมายงบประมาณรายจ่ายฉบับใหม่ และเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ก่อนที่สภาจะปิดสมัยประชุมภาคฤดูร้อนในวันที่ 26 ก.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ครั้งใหม่