นายมาร์ค เอสเปอร์ เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดภาวะไร้ผู้นำในกระทรวงแห่งนี้ หลังจากการประกาศลาออกของนายจิม แมตทิส เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมา
นายเอสเปอร์ซึ่งได้รับการรับรองจากวุฒิสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาด้วยคะแนนเสียง 90-8 คะแนนนั้น มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และพันธมิตรอื่น ในการตอบโต้เชิงกลยุทธ์กับประเทศคู่แข่ง เช่น จีน และรัสเซีย
ทั้งนี้ นายเอสเปอร์ต้องรับมือกับปัญหาระดับภูมิภาค อาทิ เช่น ความพยายามด้านอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และความตึงเครียดบริเวณภูมิภาคตะวันออกกลางต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ในพิธีสาบานตนที่ทำเนียบขาว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวว่า "ผมมั่นใจว่าเขาจะเป็นรัฐมนตรีกลาโหมที่โดดเด่น" และยังกล่าวด้วยว่า ในฐานะรัฐมนตรีกลาโหม นายเอสเปอร์มีบทบาทสำคัญในการฝึกอบรมและฝึกฝนกกองทัพของเรา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดว่า นายเอสเปอร์มีแผนการที่จะเดินทางเยือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลียในช่วงต้นเดือนส.ค. โดยระหว่างเดินทางเยือนญี่ปุ่น เขามีแผนการที่จะพบกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญีปุ่น และนายทาเคชิ รัฐมนตรีกลาโหม เพื่อหารือกันหลายประเด็น เช่น เกาหลีเหนือ จีน และอิหร่าน
ทั้งนี้ นายเอสเปอร์อาจผลักดันให้สหรัฐก่อตั้งพันธมิตรของประเทศที่มีแนวคิดเดียวกัน เพื่อปกป้องการขนส่งทางทะเลบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ที่เชื่อมต่อกับอ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมาน และเป็นเส้นทางเดินเรือบรรทุกน้ำมันดิบในสัดส่วน 1 ใน 5 ของโลก