นายมาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกเปิดเผยว่า จำนวนผู้อพยพที่เดินทางถึงชายแดนเม็กซิโกที่ติดกับสหรัฐลดลงเกือบ 40% นับตั้งแต่เดือนพ.ค.
นายเอบราร์ดเปิดเผยว่า จากการประมาณเบื้องต้นพบว่า มีประชาชน 87,648 คนที่เดินทางถึงชายแดนเม็กซิโกบริเวณที่ติดกับสหรัฐในระหว่างเดือนก.ค. ซึ่งลดลงประมาณ 39.5% เมื่อเทียบกับตัวเลข 144,278 คนในเดือนพ.ค.
นายเอบราร์ดชี้ว่า ตัวเลขการอพยพลดลงเนื่องจากการสร้างงานเพิ่มขึ้นในอเมริกากลาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลเม็กซิโกที่จะส่งเสริมโครงการการพัฒนาและการขยายตัวในภูมิภาคดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากเม็กซิโก ถ้าหากเม็กซิโกไม่สามารถควบคุมการหลั่งไหลของกลุ่มผู้อพยพได้
เม็กซิโกได้ตอบสนองโดยการส่งกองกำลังรักษาดินแดนหลายพันคนเข้าควบคุมบริเวณชายแดนทางเหนือและใต้ และในเดือนนี้รัฐบาลกล่าวว่าได้ป้องกันความเสี่ยงที่จะต้องปรับใช้กฎการอพยพใหม่ที่จะทำให้ปธน.ทรัมป์ขับไล่ผู้อพยพหลายพันคนเข้าสู่เม็กซิโก