คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้อนุมัติแผนถอดถอนชื่อเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อประเทศที่ได้รับการปฏิบัติด้วยสิทธิพิเศษด้านการส่งออกสินค้าที่อาจนำไปใช้ในทางทหารได้ หรือ "white list" แล้ว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ นับตั้งแต่ญี่ปุ่นได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกวัสดุที่ใช้สำหรับการผลิตชิพและจอแสดงผลเมื่อช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุถึงเหตุผลด้านความมั่นคง
อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายเชื่อว่าการที่ญี่ปุ่นใช้มาตรการคุมเข้มการส่งออกต่อเกาหลีใต้นั้น เป็นการตอบโต้ศาลเกาหลีใต้ที่สั่งให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยแก่คนงานเกาหลีใต้ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งญี่ปุ่นได้ยึดคาบสมุทรเกาหลีเป็นอาณานิคมในปี 2453-2488
นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รมว.การค้าของญี่ปุ่น แถลงต่อสื่อมวลชนว่า การถอดถอนชื่อเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อดังกล่าวจะมีผลวันที่ 28 ส.ค.นี้ เมื่อมีการดำเนินขั้นตอนต่าง ๆ เป็นอันแล้วเสร็จ
โครงการสิทธิพิเศษด้านการส่งออกดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการอำนวยความสะดวกในเรื่องกระบวนการที่เกี่ยวข้องนั้น เปิดโอกาสให้บริษัทญี่ปุ่นสามารถส่งออกสินค้าและเทคโนโลยีที่อาจนำไปใช้ในทางทหาร ให้แก่ประเทศที่อยู่ในรายชื่อดังกล่าวซึ่งมี 27 ประเทศด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย อังกฤษ เยอรมนี นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา
การที่เกาหลีใต้เป็นประเทศแรกที่จะหลุดจากรายชื่อดังกล่าวหลังจากที่ถูกบรรจุในรายชื่อนี้เมื่อปี 2547 นั้นหมายความว่า บริษัทญี่ปุ่นจำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากกระทรวงการค้าญี่ปุ่น หากต้องการส่งออกสินค้าไปเกาหลีใต้ โดยทางกระทรวงจะพิจารณาเป็นกรณีไป
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การถอดเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ ซึ่งขณะนี้ได้รับปัจจัยกดดันอยู่แล้วจากการที่ญี่ปุ่นได้ประกาศควบคุมการส่งออกวัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และจอแสดงผลเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา