เหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นในสหรัฐทั้ง 2 เหตุการณ์ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงได้ส่งผลให้ประชาชนกลับมาตั้งคำถามเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมอาวุธปืนอีกครั้ง รวมถึงการกล่าวโทษการแสดงความเกลียดชังต่อผู้อพยพของมือปืนชาตินิยมผิวขาวที่ก่อเหตุในรัฐเท็กซัส
ในเหตุการณ์สังหารหมู่ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 30 คน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมากล่าวว่า "ไม่มีพื้นที่ให้กับความเกลียดชังในสหรัฐ"
นโยบายควบคุมอาวุธปืนถือเป็นธีมสำคัญในการหาเสียงของพรรคเดโมแครตประจำปีหน้า ซึ่งมีบางส่วนกล่าวโทษว่านโยบายดังกล่าวเป็นต้นเหตุของเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายครั้ง โดยไม่มีนโยบายตอบรับจากผู้บังคับใช้กฎหมาย
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ และจะหารือกับนายวิลเลียม บาร์ อัยการสูงสุดสหรัฐ และเจ้าหน้าที่รายอื่น ๆ
"สหรัฐไม่มีพื้นที่ให้กับความเกลียดชัง และเราจะแก้ปัญหานี้" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว "เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว"
ทั้งนี้ เกร็ก แอ็บบ็อตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสของสหรัฐ เปิดเผยว่า เกิดเหตุกราดยิงเมื่อวันเสาร์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองเอลพาโซ รัฐเท็กซัส โดยขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 26 ราย
ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยแล้ว โดยมือปืนผู้นี้เป็นชายผิวขาววัย 21 ปีจากเมืองเอลเลน รัฐเท็กซัส