โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐหยุดแทรกแซงเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง โดยเน้นย้ำว่าชาวฮ่องกงไม่ควรเมินค่าของระบบการปกครองแบบ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ต่ำเกินไป พร้อมกับยืนยันที่จะปกป้องความรุ่งเรืองและเสถียรภาพในฮ่องกง
นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแสดงความเห็นเพื่อตอบโต้จดหมายจากนักกฎหมายของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐไม่ให้มอบความช่วยในการปราบปรามการประท้วงอย่างสงบของฮ่องกง และปฎิเสธแนวคิดที่ว่าการประท้วงดังกล่าวเป็น "การก่อจลาจล"
"ประชนชาวสหรัฐเรียกคนผิวสีว่าผิวขาวด้วยเจตนาอันมุ่งร้าย เราก็ขอคัดค้านเช่นกัน" นางหัว ระบุ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นางหัวกล่าวว่ากลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงได้บุกเข้าไปยังอาคารสภานิติบัญญัติและสำนักงานติดต่อประสานงานของจีนประจำเขตปกครองพิเศษฮ่องกงพร้อมกระบองเหล็ก พวกเขาต้องการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ กีดกันการจลาจร ครอบครองวัตถุที่ร้ายแรงและอาวุธที่อันตราย พวกเขาโจมตีตำรวจด้วยวิธีที่อันตรายถึงตาย ทำร้ายร่างกายและแม้แต่กัดนิ้วจนขาด พวกเขาสร้างความเสื่อมเสียให้แก่สัญลักษณ์ประจำชาติและธงประจำชาติ
ผู้คนจากทั่วโลกต่างเป็นประจักษ์พยานต่อเหตุการณ์เหล่านี้ แล้วชาวอเมริกาจะเรียกสถานการณ์เหล่านี้ว่าเป็น "การประท้วงอย่างสันติ" ได้อย่างไร? นางหัวตั้งคำถาม
"ทุกคนที่มีมโนธรรมจะเห็นพ้องว่าพฤติกรรมที่รุนแรงเหล่านี้ได้ข้ามเส้นของสังคมที่มีอารยะ พวกเขาได้ข้ามเส้นการประท้วงเชิงสันติและเสรีภาพในการแสดงออก พวกเขาเหยียบย่ำกฎหมายของฮ่องกงอย่างไม่ยำเกรง คุกคามความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนละเมิดหลักการ 'หนึ่งประเทศ สองระบบ' ซึ่งเราไม่สามารถอดกลั้นต่อสิ่งเหล่านี้ได้" นางหัวกล่าว