ศาลอุทธรณ์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐกำลังสอบสวนการทำธุรกรรมทางการเงินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ของธนาคารจีนขนาดใหญ่ 3 แห่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์สหรัฐได้ตัดสินยืนตามผู้พิพากษาศาลแขวงกรุงวอชิงตันที่สั่งให้ธนาคารรายใหญ่ทั้ง 3 แห่งของจีนดังกล่าวปฏิบัติตามหมายศาลสำหรับการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของธนาคาร
ศาลอุทธรณ์ระบุว่า อัยการไม่ได้ตั้งข้อสงสัยในปัจจุบันว่าธนาคารของจีนจงใจละเมิดกฎหมาย แต่ตั้งข้อสงสัยว่า ธนาคารเหล่านั้นมีบันทึกที่รัฐบาลสหรัฐคิดว่า อาจบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือให้การสนับสนุนด้านการเงินอย่างไรต่อโครงการอาวุธนิวเคลียร์
คำพิพากษาจำนวน 44 หน้าระบุว่า อัยการสหรัฐได้ตั้งข้อสงสัยว่า ธนาคารของรัฐบาลเกาหลีเหนือได้ใช้บริษัทจีนแห่งหนึ่งบังหน้าในการส่งออกถ่านหินและสินแร่อื่นๆ มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ โดยได้รับรายได้เป็นเงินดอลลาร์ที่อาจใช้เพื่อซื้อวัสดุที่จำเป็นต่อโครงการอาวุธนิวเคลียร์
ทั้งนี้ สหรัฐต้องการบันทึกการทำธุรกรรมของธนาคารตั้งแต่ปี 2555-2560 ซึ่งบ่งชี้ว่าโครงการดังกล่าวมีอายุอย่างน้อย 5 ปี
นายไบรอัน โอ’ทูล อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสรัฐซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภาแอตแลนติกกล่าวว่า หากรัฐบาลสหรัฐพบหลักฐานว่า ธนาคารจีนให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนือโดยเจตนา ธนาคารเหล่านั้นอาจถูกปรับเป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับการลงโทษธนาคารขนาดใหญ่ของยุโรปที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรคิวบา อิหร่าน และซูดาน