หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ตัดสินใจทำสงครามการค้ากับจีน ไดยไม่ได้สนใจต่อเสียงทักท้วงของที่ปรึกษาในทำเนียบขาว
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้เริ่มทวีความตึงเครียดในปีที่แล้ว แต่เหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทำให้นักลงทุน และที่ปรึกษาของปธน.ทรัมป์มองว่าความกลัวในกรณีเลวร้ายที่สุดกำลังจะเป็นจริง ซึ่งก็คือสหรัฐและจีนจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลง และจะเป็นเช่นนี้ต่อไป จนกว่าปธน.ทรัมป์จะได้ข้อตกลงที่เขาพึงพอใจ
การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยปธน.ทรัมป์ขู่ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ย. ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และรัฐบาลจีนยังได้สั่งให้บริษัทของรัฐระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ
นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อกรณีที่ว่า เขาและที่ปรึกษาคนอื่นๆไม่เห็นด้วยกับปธน.ทรัมป์ในการทำสงครามการค้ากับจีน
ทางด้าน Politico ซึ่งเป็นสื่อสหรัฐที่เน้นเจาะข่าวการเมือง รายงานว่า บรรดาที่ปรึกษากำลังโน้มน้าวปธน.ทรัมป์ให้พุ่งความสนใจไปที่การทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง แม้จะต้องแลกมาด้วยการยอมอ่อนข้อให้จีนในเรื่องการทำสงครามการค้า และลดการวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)