ปากีสถานยืนยันในวันนี้ว่าจะไม่ใช้กำลังทหารตอบโต้อินเดียในการแก้ไขวิกฤตการณ์ในแคชเมียร์
"ปากีสถานจะใช้แนวทางทางการทูต, การเมือง และกฎหมาย เพื่อแก้ไขวิกฤตการณ์ในแคว้นแคชเมียร์ โดยเราจะไม่ใช้ทางเลือกทางการทหาร" นายชาห์ เมห์มูด คูเรชิ รมว.ต่างประเทศปากีสถานกล่าว
ก่อนหน้านี้ ปากีสถานและอินเดียเคยทำสงครามในแคว้นแคชเมียร์ถึง 2 ครั้ง และปะทะกันทางทหารในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
ปากีสถานสั่งระงับการให้บริการทางรถไฟไปยังอินเดียในวันนี้ รวมทั้งสั่งห้ามฉายภาพยนต์อินเดีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่อินเดียประกาศยกเลิกสถานะพิเศษของแคว้นแคชเมียร์
เมื่อวานนี้ รัฐบาลปากีสถานตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับอินเดีย โดยได้สั่งขับข้าหลวงใหญ่ของอินเดียประจำกรุงอิสลามาบัดออกจากประเทศ และได้เรียกตัวข้าหลวงใหญ่ของปากีสถานให้เดินทางออกจากกรุงนิวเดลีของอินเดีย
นอกจากนี้ ปากีสถานยังได้ระงับการทำการค้าทวิภาคีกับอินเดีย
แคว้นแคชเมียร์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ถูกอ้างสิทธิครอบครองจากทั้งอินเดีย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู และปากีสถาน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกมาตรา 370 แห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีบทบัญญัติมอบสถานะพิเศษให้แก่แคชเมียร์ และการยกเลิกมาตราดังกล่าว ส่งผลให้แคว้นแคชเมียร์ และจัมมูไม่สามารถออกกฎหมายของตนเองได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ การยกเลิกมาตรา 370 ยังส่งผลให้ประชาชนนอกแคว้นสามารถเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในแคว้นแคชเมียร์
นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย อ้างว่าการยกเลิกมาตรา 370 แห่งรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมาตราดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการผนวกแคว้นแคชเมียร์เข้ากับดินแดนส่วนอื่นของอินเดีย