ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้เสนอให้มีการจัด "การประชุมส่วนตัว" กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เพื่อหารือถึงแนวทางคลี่คลายสถานการณ์ประท้วงในฮ่องกงที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมเตือนรัฐบาลจีนให้จัดการกับผู้ประท้วง "อย่างมีมนุษยธรรม" หากต้องการบรรลุการเจรจาการค้ากับสหรัฐ
ปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า "ผมรู้ว่าท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นคนดีมาก เขาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่และให้ความเคารพต่อประชาชนของเขาเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งท่านปธน.สียังเป็นผู้ที่มีความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างมาก ผมจึงไม่สงสัยเลย หากเขาจะต้องการแก้ปัญหาในฮ่องกงอย่างรวดเร็วและมีมนุษยธรรม เขาทำมันได้อย่างแน่นอน"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นเสมือนสัญญาณการเปลี่ยนแปลงท่าทีของประธานาธิบดีสหรัฐที่มีต่อสถานการณ์ในฮ่องกง และนับเป็นครั้งแรกที่ปธน.ทรัมป์หยิบยกประเด็นเรื่องการเจรจาการค้ามาเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง
ข้อความดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางกระแสความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่า จีนอาจใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมที่บุกยึดสนามบินในฮ่องกงเมื่อสองวันที่ผ่านมา
นับเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้วที่การชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในฮ่องกงยังคงยืดเยื้อมาอย่างต่อเนื่อง และยิ่งดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อเป้าหมายของผู้ชุมนุมได้ลุกลามบานปลายจากเดิมที่เป็นการประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน กลับกลายมาสู่การชุมนุมเรียกร้องให้นางแคร์รี ลัม ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และเรียกร้องให้มีประชาธิปไตยในฮ่องกง รวมทั้งการทำให้ฮ่องกงเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงบางส่วนได้เข้าร่วมการชุมนุมที่สนามบินตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. และขัดขวางการดำเนินงานของทางสนามบินอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 12-13 ส.ค. จนส่งผลให้เกิดการยกเลิกเที่ยวบินเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงสามารถให้บริการตามปกติแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากที่ศาลอนุมัติให้เจ้าหน้าที่สามารถสกัดบุคคลที่จะดำเนินการใด ๆ ที่ผิดกฎหมายในการขัดขวางหรือแทรกแซงการใช้บริการในสนามบิน
เมื่อวานนี้มีผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลเหลือเพียง 30-40 คนในอาคารผู้โดยสารขาเข้า หลังจากที่ผู้ชุมนุมจำนวนหลายพันคนได้ยึดครองสนามบินก่อนหน้านี้ และได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนส่งผลกระทบให้มีการยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 100 เที่ยว