เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของจีนเปิดเผยกับสื่อต่างประเทศว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณที่สร้างความสับสนในช่วงที่ผ่านมา ความน่าเชื่อถือของปธน.ทรัมป์ได้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับจีนในการบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายกับสหรัฐ
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีผู้เจรจาเพียงไม่กี่รายในจีนที่คาดว่า อาจจะมีการบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2563 เนื่องจากเป็นเรื่องอันตรายสำหรับเจ้าหน้าที่ใดๆ ที่จะแนะนำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ลงนามในข้อตกลงซึ่งปธน.ทรัมป์อาจละเมิดในท้ายที่สุด
ในการแสดงความเห็นต่อผู้สื่อข่าวหลังการประชุมซัมมิต G7 ในฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์อ้างว่า เจ้าหน้าที่จีนได้โทรศัพท์ถึงผู้เจรจาการค้าระดับสูงของสหรัฐ และเรียกร้องให้กลับไปเจรจากันอีกครั้ง โดยบ่งชี้ว่า จีนมีความต้องการอย่างมากที่จะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ
ข่าวดังกล่าวได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นพุ่งขึ้นในระยะสั้น ขณะที่ไม่มีเจ้าหน้าที่จีนคนใดรู้ว่า ปธน.ทรัมป์กำลังพูดถึงอะไร และยิ่งไปกว่านั้น ความพยายามของปธน.ทรัมป์ที่จะแสดงให้เห็นว่า จีนต้องการที่จะกลับมาเจรจานั้น เท่ากับเป็นการยืนยันถึงความกังวลมากที่สุดว่า จีนไม่สามารถเชื่อถือปธน.ทรัมป์ได้ในการทำข้อตกลงการค้า
กระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุอีกครั้งเมื่อวานนี้ว่า จีนไม่ทราบว่ามีการโทรศัพท์ตามที่ปธน.กล่าวถึง โดย นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวยืนยันว่า เขาไม่ได้รับทราบข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่จีนได้โทรศัพท์ 2 ครั้งมายังเจ้าหน้าที่สหรัฐเพื่อเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจาการค้า ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้าง
นายเกิงกได้ล่าวยืนยันเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวานนี้ว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว หลังจากที่เขาได้กล่าวปฏิเสธเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ด้านนายหู สีจิน บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ โกลบอล ไทมส์ของจีน ทวีตข้อความ ยืนยันว่า คณะเจรจาการค้าจากทั้งสองฝ่ายไม่ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แต่อย่างใด
"เท่าที่ผมทราบ เจ้าหน้าที่เจรจาการค้าจากจีนและสหรัฐไม่ได้สนทนากันทางโทรศัพท์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายติดต่อกันในระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค และไม่ได้มีความสำคัญมากอย่างที่ปธน.ทรัมป์พูดไว้ โดยจีนยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงจุดยืน และไม่ได้ยอมแพ้ต่อแรงกดดันจากสหรัฐ" นายหูกล่าว