กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ (DHS) เปิดเผยว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังโยกงบประมาณด้านการให้ความช่วยเหลือภัยพิบัติและความมั่นคงทางไซเบอร์ วงเงิน 271 ล้านดอลลาร์ ไปใช้จ่ายในการสร้างสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาผู้อพยพ
เงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการสร้างสถานกักกันผู้อพยพ และลานสำหรับรับผู้อพยพที่เดินทางมาถึงแนวชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก โดยเจ้าหน้าที่ DHS เปิดเผยว่า สถานที่เหล่านี้ได้เต็มล้นไปด้วยคลื่นผู้อพยพที่ลี้ภัยมาจากประเทศในแถบอเมริกากลางซึ่งยากจนและเต็มไปด้วยความรุนแรง
ทั้งนี้ คณะทำงานของปธน.ทรัมป์พยายามหาทางป้องกันไม่ให้สภาคองเกรสโยกย้ายงบประมาณเหล่านี้ไปให้โครงการอื่นๆ โดยการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้คณะทำงานสามารถให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพที่เดินทางมาถึงชายแดน ตามที่ปธน.ทรัมป์ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้ผู้อพยพที่รอการพิจารณาคดีความนั้น ต้องถูกควบคุมดูแลอยู่ภายนอกประเทศ
ลูซิล รอยบาล-อัลลาร์ด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในฐานะประธานสำนักงานที่กำกับดูแลการใช้จ่ายของ DHS เปิดเผยว่า คณะทำงานของปธน.ทรัมป์วางแผนที่จะนำเงิน 115 ล้านดอลลาร์จากกองทุนบรรรเทาภัยพิบัติของสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐบาลกลาง แม้ในช่วงเวลาที่ฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกกำลังใกล้เข้ามา
ทางด้าน DHS ระบุว่า สภาคองเกรสไม่ได้ให้งบประมาณที่เพียงพอแก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐ (ICE) ในการควบคุมดูแลผู้อพยพในขณะที่พวกเขาเหล่านี้กำลังรอการพิจารณาคดีจากศาลผู้อพยพ