นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่า ประเด็นระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (NHS) ไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยบนโต๊ะเจรจาความร่วมมือการค้าภายหลังจากอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) กับผู้แทนจากสหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจอห์นสันมีท่าทีที่แข็งกร้าวในระหว่างการเจรจาการค้ากับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีบนถนนดาวนิง
นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า "แน่นอนว่าเราจะทำทุกอย่างเพื่อให้การค้าของเรามีความเป็นเสรีมากขึ้น แต่เรื่องของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติยังไม่เคยได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกับโต๊ะเจรจาของเรา"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่รัฐบาลของนายจอห์นสันกำลังถูกสังคมจับตาว่าอาจกำลังพยายามแปรรูปรัฐวิสาหกิจและผ่อนปรนมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารเพื่อแลกกับการบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ
ด้านนายเพนซ์ก็ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวว่า สหรัฐกำลังมีความกังวลอยู่ว่าการทำข้อตกลงการค้าและการค้าเสรีกับอังกฤษจะทำให้การค้าระดับทวิภาคีระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นเป็นสามถึงสี่เท่า
"เรามีความกังวลที่จะทำเช่นนั้นแต่ก็พร้อมที่จะยืนเคียงข้างคุณเพื่อทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์อันแสนวิเศษที่มีมายาวนานระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร" นายเพนซ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจอห์นสันย้ำว่า ข้อตกลงที่อังกฤษจะทำกับสหรัฐนั้นจะต้องเป็น "เรื่องดีต่อทุกฝ่าย" โดยเขาได้อธิบายต่อไปว่า ยังคงมีอุปสรรค์การค้าให้เห็นอยู่ในตลาดสหรัฐ
"คุณรู้ไหมว่าชาวอเมริกันไม่กินเนื้อแกะ, เนื้อวัว หรือแม้แต่แฮกกิสจากสกอตแลนด์ ซึ่งนี่ทำให้ผมคิดว่ายังคงมีอุปสรรค์อยู่ในตลาดอีกมาก คุณเชื่อไหม ผลิตภัณฑ์ที่มาจากอังกฤษและที่อื่นๆ อาจทำให้ตลาดสหรัฐว่างเปล่าลงก็ได้" นายจอห์นสันกล่าว