การบริการขนส่งมวลชนในฮ่องกงช่วงเช้านี้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเป็นส่วนใหญ่ โดยทางรัฐบาลได้สั่งการให้เปิดสถานีรถไฟใต้ดินสายหลักและในเกาลูน หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงปิดล้อมสถานีรถไฟใต้ดินหลายสถานีเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา รวมทั้งจุดไฟหน้าสถานีตำรวจในย่านเกาลูน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงพยายามเคลียร์พื้นที่เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้บริการขนส่งมวลชนได้ตามปกติ หลังจากผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันตามสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่ง ทำให้หลายสถานีต้องปิดให้บริการ และต้องระงับการเดินรถบางส่วนชั่วคราวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ส่วนเหตุการณ์ในวันอาทิตย์นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุมในย่านคอสเวย์เบย์ หลังจากผู้ชุมนุมหลายพันคนได้เคลื่อนขบวนไปยังสถานกงสุลสหรัฐ พร้อมกับเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ช่วยปลดปล่อยฮ่องกงจากจีน
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงจับกุมตัวโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของฮ่องกง หลังเดินทางกลับจากไต้หวัน เนื่องจากหว่องได้ละเมิดเงื่อนไขการประกันตัวที่ห้ามเดินทางออกนอกฮ่องกง อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่าตนเองจะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้
เศรษฐกิจฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์ประท้วงที่ยืดเยื้อ โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating - IDR) ของฮ่องกงลงสู่ระดับ AA จากระดับ AA+ พร้อมกับให้มุมมองความน่าเชื่อถือของฮ่องกงเป็น "เชิงลบ"
ฟิทช์คาดการณ์ว่านโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ของฮ่องกงจะยังคงอยู่ต่อไป แต่ความไม่พอใจของประชาชนก็จะยังคงอยู่เช่นกัน แม้ว่ารัฐบาลฮ่องกงจะยอมทำตามข้อเรียกร้องบางประการของกลุ่มผู้ประท้วงแล้วก็ตาม