นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักทั้งจากสหภาพยุโรป (EU) และสมาชิกในรัฐบาลอังกฤษ จากความดื้อดึงที่จะนำอังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ตามกำหนดการเดิมในวันที่ 31 ต.ค.นี้ โดยล่าสุดเขาได้ถูกกล่าวหาจากเจ้าหน้าที่ของ EU ว่าล้มเหลวในการเจรจาอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันก็ถูกตราหน้าจากทนายความของศาลฎีกาว่าเป็น "บิดาแห่งการโกหก"
ทั้งนี้ ในที่ประชุมของรัฐสภายุโรป ที่เมืองสตราซบูร์กของประเทศฝรั่งเศสเมื่อวานนี้ ได้มีการหารือกันในประเด็นเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ โดยมีสมาชิกแสดงความคิดเห็นว่าหากมีการถอนตัวโดยไร้ข้อตกลง (no-deal Brexit) เกิดขึ้นจะเป็นความผิดพลาดของอังกฤษ ไม่ใช่ของ EU
ขณะเดียวกัน รัฐบาลอังกฤษก็กำลังเผชิญแรงกดดันจากการตัดสินใจพักสมัยประชุมเป็นเวลา 5 สัปดาห์จนถึงวันที่ 14 ต.ค. ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ โดยมองว่าเป็นแผนของนายจอห์นสันในการจำกัดสมัยประชุมสภา ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 31 ต.ค.
ด้านนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ออกมาเตือนว่า อังกฤษกำลังมุ่งหน้าไปสู่เส้นทางของการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 6 สัปดาห์ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU
นายยุงเกอร์กล่าวว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้กล่าวต่อเขาว่า อังกฤษยังคงต้องการทำข้อตกลง แต่ก็พร้อมที่จะแยกตัวออกจาก EU ในวันที่ 31 ต.ค. ไม่ว่ามีหรือไม่มีข้อตกลง
"มีเวลาเหลือน้อยมาก และความเสี่ยงของการเกิด no-deal Brexit ก็ใกล้เป็นความจริง" นายยุงเกอร์กล่าว