นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียกำลังให้ความช่วยเหลือจีนในการพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้าเพื่อต่อต้านขีปนาวุธ ขณะเดียวกันปูตินได้วิพากษ์วิจารณ์สหรัฐที่ถอนตัวออกจากสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (INF)
ปธน.ปูตินยืนยันในระหว่างการกล่าวปาฐกถาในที่ประชุม Valdai Club ซึ่งเป็นการประชุมของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศที่จัดขึ้นในเมืองโซชิของรัสเซียเมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ปธน.ปูติน กล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียกำลังให้ความช่วยเหลือจีนในการสร้างระบบเตือนภัยขีปนาวุธ ซึ่งสามารถเตือนภัยล่วงหน้าก่อนที่จะถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางการทหารให้กับจีน เนื่องจากขณะนี้มีเพียงสหรัฐและรัสเซียเท่านั้นที่มีระบบดังกล่าว
นอกจากนี้ ปธน.ปูตินยังกล่าวด้วยว่า การที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากสนธิสัญญา INF ซึ่งจัดทำขึ้นในปี 2530 นั้น ได้ทำให้เสถียรภาพทางยุทธศาสตร์ของนานาประเทศอ่อนแอลง
ทั้งนี้ สนธิสัญญา INF มีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้ทั้งสหรัฐและรัสเซีย ติดตั้งฐานยิงขีปนาวุธภาคพื้นดินระยะสั้นและระยะกลางในยุโรป โดยสหรัฐได้ส่งสัญญาณความพร้อมที่จะถอนตัวออกจากสนธิสัญญาดังกล่าวตั้งแต่เมื่อ 6 เดือนก่อน และต่อมาได้ประกาศถอนตัวออกจากสนธิสัญญา INF กับรัสเซียเมื่อวันที่ 2 ส.ค. โดยกล่าวหาว่ารัสเซียเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลง ขณะที่รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว