กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงได้ก่อเหตุจลาจลในคืนนี้ โดยมีการทำลายทรัพย์สิน ปิดกั้นถนน รวมทั้งการวางเพลิง เพื่อคัดค้านการออกกฎหมายห้ามสวมหน้ากากในการชุมนุม
ความวุ่นวายได้เกิดขึ้นในหลายจุด ส่งผลให้มีการปิดสถานีรถไฟใต้ดิน และร้านค้าหลายแห่ง
ทางด้านตำรวจได้เตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย
นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง จัดการแถลงข่าวในวันนี้ โดยได้ประกาศห้ามกลุ่มผู้ประท้วงสวมหน้ากาก ซึ่งถือเป็นการออกกฎหมายฉุกเฉินครั้งแรกนับตั้งแต่อังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงกลับคืนสู่จีนในปี 2540
นางลัมเปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อหยุดความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการประท้วง และช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการบังคับใช้กฎหมาย
คำสั่งห้ามสวมหน้ากากจะมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ โดยมีการกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี และปรับสูงสุด 25,000 ดอลลาร์ฮ่องกง แต่จะอนุญาตให้สวมหน้ากากได้หากมีเหตุผลทางศาสนา อาชีพ หรือทางการแพทย์