สื่อฮ่องกงรายงานว่า ตำรวจฮ่องกงได้ใช้กระสุนจริงยิงเข้าใส่ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้ยิงเด็กวัย 14 ปีคนหนึ่งบริเวณต้นขาขณะที่เจ้าหน้าที่ถูกผู้ชุมนุมล้อมรอบ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเขตนิวเทอร์ริทอรีส์ โดยเด็กคนดังกล่าวถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้วและขณะนี้อาการยังไม่สาหัส
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเด็กนักเรียนมัธยมปลายวัย 18 ปีในระหว่างการปะทะกันเมื่อวันอังคารที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันฉลองครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นักเรียนชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกตำรวจปราบจลาจลยิงในระยะประชั้นชิด หลังจากนั้นเขาได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการวิกฤต
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในฮ่องกง ชาวฮ่องกงยังคงชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเมื่อคืนนี้ เพื่อคัดค้านคำสั่งห้ามกลุ่มผู้ประท้วงสวมหน้ากากเพื่อปิดบังตัวตนในการชุมนุม
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้ประกาศการห้ามสวมหน้ากากในกลุ่มผู้ประท้วงอย่างเป็นทางการหลังจากที่สื่อได้รายงานข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นการออกกฎหมายฉุกเฉินครั้งแรกนับตั้งแต่อังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้กับจีนในปี 2540
คำสั่งห้ามสวมหน้ากากกำหนดโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี และปรับสูงสุด 25,000 ดอลลาร์ฮ่องกง แต่จะอนุญาตให้สวมหน้ากากได้หากมีเหตุผลทางศาสนา อาชีพ หรือทางการแพทย์
คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงได้ก่อเหตุจลาจลในคืนเดียวกัน โดยมีการทำลายทรัพย์สิน ปิดกั้นถนน รวมทั้งการวางเพลิง เพื่อคัดค้านการออกกฎหมายห้ามสวมหน้ากากในการชุมนุม