สถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันได้ประณามสหรัฐที่ประกาศระงับการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกดขี่ข่มเหงและจับกุมชาวมุสลิมเป็นจำนวนมากในมณฑลซินเจียง โดยสถานทูตจีนระบุว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน
โฆษกสถานทูตระบุในแถลงการณ์ที่มีการเผยแพร่ทางอีเมลว่า การตัดสินใจของสหรัฐถือเป็นการละเมิดบรรทัดฐานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง อีกทั้งเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน และทำลายผลประโยชน์ของจีน โดยจีนแสดงความไม่พอใจและคัดค้านอย่างจริงจัง
โฆษกกล่าวว่า ซินเจียงไม่ได้มีประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนตามที่สหรัฐกล่าวอ้าง ข้อกล่าวหาจากฝ่ายสหรัฐเป็นเพียงข้ออ้างสำหรับการแทรกแซงเท่านั้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนเกิดขึ้นหลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกดขี่ข่มเหงและจับกุมชาวมุสลิมเป็นจำนวนมากในมณฑลซินเจียง
นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้ออกแถลงการณ์ในวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า "มาตรการที่เข้มงวดนี้จะบังคับใช้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เชื่อว่ามีส่วนต้องรับผิดชอบ หรือรู้เห็น ในการกักขังหน่วงเหนี่ยว หรือทำร้ายชาวอุยกูร์ ชาวคาซัคสถาน หรือบรรดาชาวมุสลิมที่เป็นชนกลุ่มน้อยในมณฑลซินเจียงของจีน นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้ถึงสมาชิกครอบครัวของเจ้าหน้าที่เหล่านั้นด้วย"