รถไฟใต้ดินของฮ่องกงปิดให้บริการเร็วขึ้นมาเป็นเวลากว่าสัปดาห์ ส่งผลให้ประชาชนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าตกอยู่ภายใต้เคอร์ฟิวทางอ้อม
หลังจากที่นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ประกาศการห้ามสวมหน้ากากในกลุ่มผู้ประท้วงเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประท้วงทิ้งหน้ากากจนเกลื่อนสถานี ขณะที่เอ็มอาร์ที ครอป ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน สั่งปิดการให้บริการทั้งวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ก่อนที่จะค่อยๆเปิดให้บริการในแต่ละสถานี
เอ็มอาร์ที คอร์ป กล่าวว่า ทางบริษัทต้องการเวลาในการซ่อมแซมสถานีรถไฟฟ้าเพิ่มเติม แต่กลุ่มผู้ประท้วงเชื่อว่าทางบริษัทต้องการที่จะช่วยเหลือรัฐบาลด้วยการลดระยะเวลาการให้บริการ ซึ่งเป็นการบังคับประชาชนให้ต้องรีบกลับที่พักเร็วขึ้นตามไปด้วย
สถานการณ์ในฮ่องกงทวีความรุนแรงขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า มีอุปกรณ์ระเบิดที่ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุถูกจุดชนวนขึ้นใกล้กับรถตำรวจคันหนึ่งเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยได้เกิดระเบิดขึ้นในเขตมงก๊กห่างจากรถตำรวจประมาณ 10 เมตร (33 ฟุต)
นายซูร์ยานโต ชิน-ชิว ผู้กำกับการสำนักงานกำจัดอาวุธระเบิดกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเพราะไม่มีใครอยู่ใกล้บริเวณนั้นเมื่อระเบิดถูกจุดชนวนขึ้น และกล่าวว่า ระเบิดดังกล่าวดูเหมือนทำขึ้นเอง แต่ต้องอาศัยความรู้ทางเคมีในระดับหนึ่ง