การประชุมที่ทำเนียบขาวระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และบรรดาผู้นำสภาคองเกรสเพื่อควบคุมผลกระทบจากวิกฤตการณ์ซีเรียนั้น ได้หยุดชะงักลงอย่างฉับพลันเมื่อวานนี้ หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์มีอาการอาละวาดโวยวายอย่างรุนแรง
นางเพโลซีกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ดูเหมือนจะมีอาการโกรธจัด หลังจากส.ส.พรรครีพับลิกัน 129 คนสนับสนุนการลงมติให้ตำหนิปธน.ทรัมป์ที่สั่งถอนกองกำลังสหรัฐออกจากซีเรีย โดยนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐกล่าวว่า การที่ปธน.ทรัมป์ก่นด่านางเพโลซีด้วยถ้อยคำที่น่ารังเกียจ ทำให้ผู้นำของพรรคเดโมแครตตัดสินใจเดินออกจากที่ประชุม
แหล่งข่าวของพรรคเดโมแครตระบุว่า ปธน.ทรัมป์แสดงความไม่พอใจ หลังจากที่นายชูเมอร์อ้างคำกล่าวของนายจิม แมททิส อดีตรมว.กลาโหมของทรัมป์ซึ่งกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ NBC เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า หากสหรัฐไม่คอยกดดันต่อไป กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ก็จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
ปธน.ทรัมป์ได้ตำหนินายแมททิสว่า เป็นนายพลที่โอเวอร์มากที่สุดในโลก และยกย่องตัวเองซึ่งไม่ใช่อดีตนายพลนาวิกโยธิน ในการเอาชนะกลุ่ม IS
ทางด้านนางสเตฟานี กริสแฮม โฆษกทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนปธน.ทรัมป์ว่า ปธน.ทรัมป์มีการไตร่ตรอง, ยึดหลักความเป็นจริง และมีความเด็ดขาด ในขณะที่การตัดสินใจของนางเพโลซีที่เดินออกจากที่ประชุมนั้น เป็นการทำให้เรื่องยุ่งเหยิง แต่ก็ไม่น่าประหลาดใจ เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจฟังหรือมีส่วนร่วมในการประชุมที่สำคัญในเรื่องความมั่นคงของชาติ