สื่อต่างประเทศรายงานว่า ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงที่สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยนับหมื่นคนพากันสวมเสื้อผ้าสีดำและใส่หน้ากากดำออกมารวมตัวกัน ยึดถนนสายหลัก และกีดขวางการจราจร ในย่านเศรษฐกิจสำคัญของเขตเกาลูนอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้
ทั้งนี้ การประท้วงเริ่มขึ้นที่หน้าโรงแรมเพนนินซูลา ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเข้าปิดถนนนาธานและถนนซาลิสเบอร์รี ในย่านจิมซาจุ่ยของเขตเกาลูน ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าในบริเวณดังกล่าวต้องหยุดให้บริการ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาประกาศให้ผู้ประท้วงทั้งหมดเดินทางออกจากพื้นที่ชุมนุมในทันที มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีข้อหา "เข้าร่วมการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต"
กลุ่มแนวร่วมเพื่อสิทธิมนุษยชนพลเรือนซึ่งมีนายจิมมี ชัม เป็นแกนนำ เป็นหนึ่งในกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง และได้จัดการเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมประท้วงนับล้านคนในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยทางกลุ่มได้นัดหมายที่จะออกมาเดินขบวนประท้วงในวันอาทิตย์นี้ในเกาลูน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุในวันนี้ว่า จะไม่อนุญาตให้มีการเดินบวนประท้วงดังกล่าว อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมานั้น ผู้ประท้วงไม่ได้สนใจการคัดค้านดังกล่าว และยังคงเดินหน้าจัดการเดินขบวนประท้วงต่อไป
นับเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้วที่ นางแครี ลัม ผู้นำฮ่องกงได้ออกกฎหมายฉุกเฉินเป็นครั้งแรกในรอบครึ่งศตวรรษเพื่อห้ามการสวมหน้ากากโดยหวังที่จะยุติการประท้วง แต่ฮ่องกงกลับถูกสั่นคลอนจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่รุนแรงที่สุดจนถึงขณะนี้