นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่จากสหรัฐเดินทางไปเยือนจอร์แดน เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในซีเรีย หลังจากที่สหรัฐและตุรกีได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรีย
นางเพโลซีและคณะได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ที่กรุงอัมมาน โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือกันถึงประเด็นความมั่นคงและความมีเสถียรภาพในภูมิภาค
ทั้งนี้ จอร์แดนถือเป็นพันธมิตรหลักของสหรัฐซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองในซีเรียมากว่า 8 ปี โดยรัฐบาลจอร์แดนกล่าวว่า จอร์แดนต้องรับผู้อพยพชาวซีเรียถึง 1 ล้านคนที่หนีภัยสงครามในประเทศของตนเอง
แถลงการณ์ของนางเพโลซีระบุว่า "ด้วยวิกฤตการณ์ในซีเรียที่เกิดขึ้นจากการบุกรุกของตุรกี คณะผู้แทนของเราได้เข้าร่วมการหารือเกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาค, จำนวนผู้อพยพที่มีเพิ่มขึ้น และการเปิดช่องให้กับกลุ่ม ISIS อิหร่าน และรัสเซีย"
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา กองทัพตุรกีได้เปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังชาวเคิร์ดในพื้นที่ตอนเหนือของซีเรีย ส่งผลให้มีพลเมืองและนักรบกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) เสียชีวิตจำนวนมาก โดยกองกำลังชาวเคิร์ดเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐในการต่อสู้กับกลุ่ม IS ขณะที่ตุรกีมองว่ากลุ่มนักรบชาวเคิร์ดเป็นผู้ก่อการร้าย อย่างไรก็ดี นานาประเทศทั่วโลกซึ่งรวมถึงสหรัฐ ได้พยายามกดดันรัฐบาลตุรกีให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ตอนเหนือของซีเรีย