รัฐบาลชิลีขยายพื้นที่ในการประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายเมืองทั่วประเทศ ท่ามกลางเหตุการณ์จลาจลในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งมีการปล้มสะดมร้านค้า และการเผาสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่ง
กระทรวงมหาดไทยของชิลีเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตจากการก่อการจลาจลอย่างน้อย 7 ราย
"เรากำลังทำสงครามกับศัตรูที่ทรงพลัง ซึ่งพร้อมที่จะใช้ความรุนแรงอย่างไม่จำกัด" ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเญร่า กล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนชาวชิลีต่างลุกฮือแสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลประกาศปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน และแม้รัฐบาลประกาศระงับการขึ้นค่าโดยสารดังกล่าวแล้ว แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็ยังคงพากันชุมนุมต่อต้านรัฐบาล
นายปิเญร่ากล่าวว่า การประกาศภาวะฉุกเฉินที่มีการบังคับใช้ในกรุงซานติอาโก จะมีการขยายให้มีผลบังคับใช้ในหลายเมืองทางตอนเหนือและใต้ของประเทศ
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลชิลีประกาศภาวะฉุกเฉิน นับตั้งแต่มีการปกครองแบบประชาธิปไตยในปี 2533 อันเนื่องจากความไม่สงบที่เกิดขึ้นในกรุงซานติอาโก