กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงกันที่จะทยอยยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าของแต่ละฝ่ายที่มีการกำหนดขึ้นในช่วงที่สหรัฐและจีนทำสงครามการค้าก่อนหน้านี้
นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน ระบุว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้แทนเจรจาของทั้งสองฝ่ายได้หารือกันอย่างจริงจังและสร้างสรรค์ และได้ตกลงที่จะทยอยยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้า ขณะที่มีความคืบหน้าในการทำข้อตกลง
นายเการะบุว่า หากจีนและสหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ทั้งสองฝ่ายก็ควรยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมที่กำหนดไว้ในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการบรรลุข้อตกลง
อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวส่งสัญญาณที่แตกต่างกันต่อแถลงการณ์ดังกล่าวของกระทรวงพาณิชย์จีน โดยเจ้าหน้าที่หลายรายแสดงความกังวลว่าสหรัฐจะสูญเสียอำนาจในการต่อรองกับจีน หากมีการทำข้อตกลงทยอยยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้า ขณะที่ยังไม่มีความแน่ใจว่าจีนจะปฏิบัติตามข้อตกลงหรือไม่
นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เป็นเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเพียงรายเดียวที่ยืนยันแถลงการณ์ของจีน โดยระบุว่า หากสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก ก็จะมีการทำข้อตกลงยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้า และความยินยอมอื่นๆ
อย่างไรก็ดี นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษานโยบายการค้าประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ยังไม่ได้ไปไกลถึงขั้นที่จีนได้แถลงออกมา
"นี่เป็นสิ่งที่ผมรู้ ขณะนี้ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆที่ระบุให้สหรัฐยกเลิกการจัดเก็บภาษีเป็นเงื่อนไขในข้อตกลงการค้าเฟสแรก และผู้เดียวที่จะทำการตัดสินใจดังกล่าวคือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" เขากล่าว
นายนาวาร์โรยังกล่าวว่า การประกาศของจีนเป็นแทคติคที่ต้องการกดดันทำเนียบขาวให้ยอมรับเงื่อนไขการทยอยยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้า
"เราจะมีการทำข้อตกลงเฟสแรกกับจีน ตามเงื่อนไขของท่านประธานาธิบดี ขณะที่ใกล้ถึงกำหนดการเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งการที่จีนร้องเรียนเกี่ยวกับการเก็บภาษีก็เป็นเพราะมาตรการนี้กำลังใช้ได้ผล" นายนาวาร์โรกล่าว
ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ยังคงไม่ได้แสดงความเห็นต่อแถลงการณ์ของจีนแต่อย่างใด