ศาลอุทธรณ์กลางของสหรัฐ ปฏิเสธคำอุทธรณ์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ที่ขอให้เจ้าหน้าที่สภาคองเกรสยุติการตรวจสอบประวัติการเสียภาษีย้อนหลัง 8 ปีของปธน.ทรัมป์
คณะผู้พิพากษา 11 คนของศาลอุทธรณ์ประจำแขวงโคลัมเบีย ลงมติด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 3 ยืนตามคำตัดสินเดิมในเดือนต.ค.ว่า ปธน.ทรัมป์ต้องปฏิบัติตามหมายศาลที่คณะกรรมาธิการกำกับดูแลและปฏิรูปของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐส่งไปในเดือนเม.ย. ที่สั่งให้บริษัทบัญชีของปธน.ทรัมป์ให้ข้อมูลประวัติการเสียภาษีย้อนหลังของปธน.ทรัมป์ในระหว่างปี 2554-2561
คำตัดสินล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์อุทธรณ์คำตัดสินของผู้พิพากษา 3 คนเมื่อเดือนที่แล้ว โดยผู้พิพากษาได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 2 ต่อ 1 ปฏิเสธคำร้องของปธน.ทรัมป์ที่ขอให้ห้ามนายไซรัส แวนซ์ อัยการแขวงแมนฮัตตัน ส่งหมายศาลให้กับบริษัทมาซาร์ส ยูเอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทรับทำบัญชีที่ดำเนินการด้านภาษีสำหรับตระกูลทรัมป์ ทำการเปิดเผยรายละเอียดการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้ส่วนบุคคล รวมทั้งการชำระภาษีธุรกิจของปธน.ทรัมป์ตั้งแต่ปี 2554-2561 และรายละเอียดอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการไต่สวนในคดีอาญาต่อปธน.ทรัมป์และธุรกิจของครอบครัวทรัมป์
ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ประจำรัฐนิวยอร์กได้ยกคำร้องของปธน.ทรัมป์ที่อ้างว่าเขามีเอกสิทธิ์คุ้มครองทางกฎหมายจากการสอบสวนในคดีอาญาระหว่างที่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ขณะที่ศาลแขวงสหรัฐประจำเมืองแมนฮัตตันก็ได้ประกาศยกคำร้องของปธน.ทรัมป์ที่ขอยืนยันเอกสิทธิ์คุ้มครองตามกฎหมายโดยไม่เปิดเผยรายละเอียดการยื่นแบบชำระภาษีของเขาในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา
ทางด้านนายเจย์ เซคูโลว์ ทนายความของปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาต่อไป
ทั้งนี้ การพยายามปกปิดรายละเอียดด้านภาษีของปธน.ทรัมป์นั้น สวนทางกับคำมั่นสัญญาที่เขาให้ไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ที่ว่า เขาจะเปิดเผยรายละเอียดการยื่นแบบชำระภาษีของตน