การเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และนายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ที่ทำเนียบขาวสิ้นสุดลงโดยไม่สามารถคลี่คลายประเด็นที่ตึงเครียดระหว่างสองประเทศได้
ผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการที่ตุรกีตัดสินใจซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากรัสเซีย เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างภัยคุกคามแก่กลุ่มองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO)
ทางด้านตุรกีระบุว่า ตุรกีอาจใช้ระบบแพตทริออต (Patriot) ของสหรัฐ ควบคู่ไปกับ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากรัสเซีย ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า ตนเองและปธน.ตุรกัตกลงที่จะเจรจาในประเด็นนี้ต่อไป
"การซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 สร้างความท้าทายให้กับเราอย่างมาก" ทรัมป์กล่าว "หวังว่าเราจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้"
ข้อพิพาทเกี่ยวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศเป็นประเด็นตึงเครียดหลักของสองประเทศ ก่อนหน้านี้ ตุรกีเปิดฉากการโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ด และยังถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีการปราบปรามศัตรูทางการเมือง นักข่าว และอีกมากมาย
อย่างไรก็ดี ทรัมป์กล่าวว่า แม้ว่าจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ตนเองเชื่อว่าทั้งสองประเทศจะสามารถเพิ่มปริมาณการค้าได้ โดยมูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศเมื่อปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์