เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้บุกเข้าไปในมหาวิทยาลัย "Hong Kong Polytechnic University" ในเขตเกาลูน เมื่อคืนนี้ เพื่อสลายการชุมนุม หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ยึดมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นที่ปักหลักการชุมนุมนานหลายวัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดการปะทะกันอย่างหนักระหว่างตำรวจและกลุ่มผู้ประท้วง นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประท้วงยังจุดไฟเผาบริเวณทางเข้ามหาวิทยาลัย และขว้างปาระเบิดขวดรวมทั้งยิงธนูใส่เจ้าหน้าที่จากด้านหลังเครื่องกีดขวางด้วย
รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ประท้วงได้ปะทะกันตลอดทั้งคืนจนกระทั่งในเวลาประมาณ 05:30 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดสินใจใช้ปฏิบัติการกระชับพื้นที่และปิดล้อมมหาวิทยาลัยแห่งนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะยึดคืนมหาวิทยาลัยดังกล่าว หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงได้ปักหลักชุมนุมในพื้นที่แห่งนี้เป็นเวลาหลายวัน
สำนักงานตำรวจของฮ่องกงได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจต้องตอบโต้ด้วยการใช้กระสุนจริง หากผู้ชุมนุมไม่หยุดใช้อาวุธอันตรายเช่นธนู หรือระเบิดขวด
ทางด้านนายแมททิว เฉิง เลขาธิการผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนของสังคมอยู่ในความสงบและยับยั้งชั่งใจ เคารพและอดทนต่อคนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง ก่อนที่การเลือกตั้งท้องถิ่นจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้
ทั้งนี้ ฮ่องกงมีกำหนดจัดการเลือกตั้งสภาเขตในวันอาทิตย์หน้า โดยผู้สมัคร 1,090 คนจะชิงเก้าอี้ 452 ที่นั่งใน 18 เขต และจะมีการเปิดคูหาให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 4.13 ล้านคนไปลงคะแนน
การประท้วงที่ยืดเยื้อยาวนานในฮ่องกงส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วในขณะนี้ โดยรายงานระบุว่า เศรษฐกิจฮ่องกงหดตัว 3.2% ในไตรมาส 3 หลังจากหดตัวในไตรมาส 2 เช่นกัน ส่งผลให้เศรษฐกิจฮ่องกงหดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส ซึ่งเข้าเกณฑ์ของคำว่าเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ รัฐบาลฮ่องกงยังได้ปรับทบทวนตัวเลขเศรษฐกิจในปีนี้ โดยคาดว่าจะหดตัว 1.3% เทียบกับก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะหดตัว 0-1% ส่งผลให้ฮ่องกงจะประสบภาวะเศรษฐกิจหดตัวรายปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552